ทุกคนคงเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องตากระตุกที่ว่า ‘ขวาร้ายซ้ายดี’ คือ ตากระตุกข้างซ้าย เป็นลางบอกว่าจะมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้น แต่หากตากระตุกข้างขวา จะเป็นลางบอกเหตุไม่ดี หรือบางคนอาจจะมีความเชื่อที่สลับกันเป็นขวาดีซ้ายร้าย แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าแท้จริงแล้วอาการตากระตุกเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ และเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่
อาการตากระตุก
อาการตากระตุก เป็นอาการที่กล้ามเนื้อบริเวณรอบ ๆ ดวงตาขยับอย่างรวดเร็ว สามารถเกิดขึ้นได้บริเวณเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง แต่ส่วนมากจะเกิดได้ง่ายบริเวณเปลือกตาบน โดยจะกระตุกทีละข้าง ซึ่งปกติแล้วอาการเหล่านี้สามารถหายได้เอง และไม่เป็นอันตรายอะไร นอกเสียจากว่าคุณเริ่มรู้สึกตากระตุกจนลืมตาได้ลำบาก และรู้สึกรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทบต่อการใช้ชีวิต ก็อาจต้องเฝ้าระวังอาการเหล่านี้มากขึ้น
ตากระตุกเกิดจากสาเหตุอะไร
อาการตากระตุก สามารถเกิดได้กับทุกคน และหายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีกในเวลาใกล้เคียงกัน โดยเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ
- อาการตาแห้ง ตาล้า หรือเกิดการระคายเคืองที่ดวงตา
- ความเครียดสะสม
- โรคภูมิแพ้
- เจอแสงแดดจ้าเป็นเวลานาน
- ดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนมากเกินไป
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด
สาเหตุที่เรายกตัวอย่างมา เป็นเพียงสาเหตุที่เกิดขึ้นและส่งผลออกมาในอาการที่ไม่รุนแรง แต่ขณะเดียวกันบางคนกลับมีอาการตากระตุกเป็นเวลาหลายวัน และอาการรุนแรงเสียจนกระทบกับการใช้ชีวิตนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคอื่น ๆ ได้
สัญญาณเตือนโรคทางประสาทและสมอง
แม้ว่าอาการตากระตุกจะดูเหมือนเป็นอาการเล็ก ๆ ที่คุณคิดว่าไม่เป็นอันตรายอะไร แต่อย่างที่บอกไปว่าหากมีอาการเกิดขึ้นนาน และมีอาการอื่นร่วมด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคเกี่ยวกับประสาทและสมอง เช่น
- โรคอัมพาตใบหน้า
- โรคกล้ามเนื้อใบหน้าบิดเกร็ง
- โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
- โรคกล้ามเนื้อบิดเกร็ง
- โรคคอบิดเกร็ง
- โรคกล้ามเนื้อช่องปากหรือขากรรไกรบิดเกร็ง
- โรคทูเร็ตต์
อาการแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
หากคุณมีอาการตากระตุกนานร่วม 2 สัปดาห์ หรือเกิดอาการอื่นร่วมด้วย เช่น กระตุกบริเวณอื่นร่วมด้วย, อาการตาพร่ามัว, ลืมตาไม่ขึ้น, ตาบวมแดง, และมีน้ำไหลออกจากตา นี่เป็นสัญญาณบ่งชี้ที่คุณควรปรึกษาแพทย์ทันที เพราะการปล่อยอาการเหล่านี้ไว้นานวันอาจส่งผลให้โครงสร้างดวงตาของคุณเสียหาย หรืออาจส่งผลให้อาการแย่ลง โดยแพทย์ก็จะทำการตรวจหาสาเหตุด้วยวิธี CT สแกน หรือ MRI ขณะเดียวกันคุณอาจจะต้องพบกับจักษุแพทย์ หรือนักประสาทวิทยาเพื่อตรวจรักษาต่อไป
หลีกเลี่ยง / รักษา อาการตากระตุก
อาการตากระตุก โดยปกติแล้วจะหายได้เอง แต่หากคุณมีอาการตากระตุกติดต่อกันหลายวันให้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง ได้แก่
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
- หยอดน้ำตาเทียมหรือยาหยอดตาบรรเทาอาการตาแห้ง
- ประคบน้ำอุ่นเมื่อมีอาการตากระตุก
- หลีกเลี่ยงภาวะเครียด
หากลองปรับพฤติกรรมตามที่แนะนำไปแล้วแต่อาการตากระตุกของคุณยังไม่หาย คุณควรต้องปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป โดยแพทย์อาจรักษาโดยการให้ยาปฏิชีวนะ, ผ่าตัด, ฉีดโบท็อกซ์ หรือหากคุณมีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรคทางประสาทและสมองแพทย์ก็จะได้รักษาโรคนั้น ๆ ได้อย่างทันท่วงที
ดังนั้น อาการตากระตุกไม่ใช่เรื่องของโชคลางอย่างที่หลายคนเคยได้ยินมา แต่หมายถึงความผิดปกติของร่างกาย และอาจนำมาซึ่งสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพอื่น ๆ หากคุณมีอาการเพียงระยะสั้น ๆ ก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร แต่หากมีอาการนานหรือรุนแรงมากกว่านั้นก็ให้รีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป
ที่มา healthline , hopkinsmedicine
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส