ทุกคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า ‘ความรักคือความเจ็บปวด’ สำหรับคนที่เคยเจอกับสถานการณ์ความรักไม่เป็นอย่างที่หวัง หรือคนรักปฏิบัติกับเราราวกับเป็น ‘ถังขยะเคลื่อนที่’ ไว้คอยระบายหรือโมโหใส่ก็คงจะเข้าใจประโยคนี้ดี
ไม่ว่าจะความสัมพันธ์แบบครอบครัว คนรัก เพื่อนสนิท ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยิ่งภาวะอารมณ์ต่าง ๆ ด้วยแล้ว หากสังเกตดูจะพบว่าส่วนใหญ่เรามักจะโมโห หรือทำร้ายบุคคลที่เราบอกว่า ‘รักมากที่สุด’
ในเมื่อ ‘รัก’ มากขนาดนี้ แต่ทำไมถึงยังอยากพูดจาทำร้ายจิตใจและทำร้ายความรู้สึกพวกเขากันนะ ?
เรามักทำร้ายคนที่เรารักมากที่สุด
เรื่องนี้เป็นข้อเท็จจริงและมีงานวิจัยที่ยืนยันแล้วว่า คนเรามีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวหรือทำร้ายจิตใจคนที่เรารักมากกว่าบุคคลอื่น!
โดยการก้าวร้าวโดยตรง หรือการโมโหอย่างรุนแรงเรามักจะกระทำต่อคนใกล้ชิดอย่างคนในครอบครัว หรือคนรัก ขณะที่เพื่อนสนิทมักตกเป็นเป้าหมายของการถูกทำร้ายจิตใจทางอ้อมเสียมากกว่า เช่น การนินทาว่าร้าย การทำพฤติกรรมเฉยชาใส่ เป็นต้น
ทำไมเราถึงกล้าทำร้ายคนที่เรารัก
1.ทำร้ายคนอื่นเพื่อลงโทษตัวเอง
ทุกครั้งที่เราพูดจาหรือทำอะไรที่เป็นการทำให้คนที่เรารักเสียใจ สุดท้ายเราจะรู้สึกเสียใจและรู้สึกผิดตามมาเสมอ แต่ที่เรายังคงทำเช่นนี้อยู่ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความรู้สึกเบื้องลึกในจิตใจที่เราอาจจะคิดว่าตนเองไม่คู่ควรกับความรักที่ได้รับ ไม่คู่ควรที่จะมีความสุข ดังนั้น เราจึงทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งเพื่อเป็นบ่อนทำลายตนเองและความสุขในชีวิต ในกรณีเช่นนี้มีแนวโน้มที่จะทำลายตนเองในด้านอื่น ๆ ของชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องความสัมพันธ์เท่านั้น
2.ปกป้องความรู้สึกของตนเอง
ในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอย่างคนรัก เราอาจทำร้ายอีกฝ่ายหนึ่งก่อนที่พวกเขาจะทำร้ายเรา เพื่อให้เรามีอำนาจเหนือกว่าในการควบคุมความสัมพันธ์ นี่คือความพยายามที่จะปกป้องตนเองจากการถูกทำร้ายก่อนที่เราจะเป็นฝ่ายถูกกระทำให้เสียความรู้สึกก่อน
หรืออีกทางหนึ่งเราอาจทำร้ายอีกฝ่ายเพราะเขาทำร้ายเราก่อน เพื่อให้เราสามารถควบคุมความรู้สึกของตนเองได้อีกครั้งโดยการรู้สึกว่าได้ตอบโต้และได้รับความเจ็บปวดอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งการกระทำเช่นนี้ในไม่ช้าจะกลายเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ
3.รู้สึกปลอดภัยในความสัมพันธ์
ยิ่งความสัมพันธ์ใกล้ชิด และมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างคนสองคนมากเท่าไร เราก็ยิ่งรู้สึกอิสระในการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น และไม่ปิดกั้นคำพูดรวมถึงการกระทำของตนเอง เราอาจรู้สึกอยากประพฤติตัวและพูดอย่างเปิดเผยจริงใจกับคนรัก เพราะรู้สึกปลอดภัยพอที่จะเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าจะได้รับการยอมรับจากคนที่เรารัก
อย่างไรก็ตาม การขาดการยับยั้งเรื่องนี้อาจทำให้เราทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ บางทีความคิดเห็นหรือคำพูดที่เราอาจจะคิดว่าเป็นการพูดตรง หรือพูดทุกสิ่งที่เราคิดอาจไปสร้างความเจ็บปวดให้กับคนใกล้ชิดได้
แม้ว่าการเป็นตัวของตัวเอง และรู้สึกปลอดภัยในความสัมพันธ์จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะสะท้อนถึงความใกล้ชิดที่แท้จริง แต่ขณะเดียวกันก็มีความยุ่งยากเช่นกัน เพราะง่ายที่จะสูญเสียการควบคุมตัวเอง นำมาซึ่งการทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
4.ต้องการความอิสระ
ความใกล้ชิดเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างหนึ่ง เพราะหมายถึงการที่เราเข้าใกล้บุคคลอื่นทั้งทางกาย และทางอารมณ์ เราอาจทำร้ายอีกฝ่ายโดยไม่ตั้งใจ เมื่อเรารู้สึกว่าเรากับคนรักใกล้กันเกินไป การที่เราจะหาพื้นที่ส่วนตัวรวมไปถึงการหาอิสระให้ตนเองเราอาจจะกระทำโดยการผลักอีกฝ่ายออกไป และการรู้สึกว่าถูกผลักไสอาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บปวดมาก ทั้งนี้ หากเราต้องการพื้นที่ส่วนตัวและความอิสระ ยังมีวิธีอีกมากที่สามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องทำร้ายความรู้สึกของคนใกล้ตัว
5.ทดสอบความสัมพันธ์
นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหนึ่งที่เราอาจเผลอกระทำต่อคนรัก ซึ่งอาจจะทำโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว ส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนที่ยังอยู่ในวัยเด็ก อาจจะทดสอบความสัมพันธ์ของตนเองว่าสามารถไปได้ไกลแค่ไหน เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัยให้กับตนเอง แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายใส่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์มากพอ เนื่องจากท้ายที่สุดแล้วความสัมพันธ์ที่ยืนยาวอาจมาจากการไม่เข้าใจกัน และสามารถฝ่าฟันปัญหาไปได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม การตั้งใจหาเรื่องทะเลาะหรือทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึกเพื่อทดสอบความสัมพันธ์อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอไป และอาจบั่นทอนความรู้สึกของอีกฝ่ายได้เช่นกัน
6.มีความคาดหวังกับความสัมพันธ์สูง
ในบางครั้งที่เรารู้สึกรักใครมาก ๆ หรือความสัมพันธ์กำลังก้าวไปข้างหน้าเราอาจจะมีความคาดหวัง และมองภาพคนรักให้เป็นในรูปแบบตามอุดมคติที่เราต้องการ เราอาจไม่ได้อยากทำร้ายพวกเขาแต่ยิ่งเราเข้าใกล้เขามากเท่าไหร่ ความคาดหวังก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คนรักของเราไม่เป็นตามที่เราคาดหวังไว้ เราก็อาจจะเผลอพูดจาไม่ดีหรือทำร้ายจิตใจพวกเขาได้โดยง่าย
7.อยู่ใกล้กันตลอดเวลา
เราอาจทำร้ายคนที่เรารักมากที่สุดเพียงเพราะพวกเขาคือคนที่อยู่รอบตัวเราเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของเรากับคนรักจะสัมพันธ์กันตลอดเวลา หากเราอารมณ์ไม่ดีก็มักจะแสดงออกในทันที
นอกจากนี้ การแยกไปใช้ชีวิตประจำวันของคู่รักที่ปกติแล้วมีเวลาร่วมกันบ่อย ๆ ก็มีส่วนเช่นกัน เราอาจจะเอาเรื่องที่อารมณ์ไม่ดี หรือเอาเรื่องน่าหงุดหงิดที่เกิดขึ้นในที่ทำงานกลับไปลงที่คนรักได้ เพราะเรารู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดเขา แต่แน่นอนว่าไม่ใช่แนวโน้มที่ดีในความสัมพันธ์อย่างแน่นอน
ทำไมเราใจเย็นกับคนอื่นแต่โมโหกับคนที่เรารัก
เรื่องนี้มีสาเหตุใกล้เคียงกับสาเหตุที่เรามักทำร้ายจิตใจคนที่เรารักมากที่สุด เพราะหากสังเกตดูจะเห็นว่าเรามักจะเกรงใจคนอื่น ๆ ที่เราไม่ได้สนิทมากกว่าคนที่เราสนิทด้วย นั่นเป็นเพราะว่า
- เราคิดว่าความสัมพันธ์ของเรากับคนใกล้ตัวแข็งแกร่งมากพอ ไม่ว่าเราจะพูดหรือทำอะไรคนใกล้ตัวก็มักให้อภัยอยู่ดี
- คนนอกเป็นบุคคลที่เราไม่รู้จักดีพอ ทำให้ทุกครั้งเวลาเราจะพูดหรือทำอะไร มักจะอยู่ในความระมัดระวัง ต่างจากคนใกล้ตัวที่เรารู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร และมักจะรับเราได้ในแทบทุกเรื่อง
- คิดว่าคนใกล้ตัวหรือครอบครัวสามารถรับพฤติกรรมด้านลบของเราได้ ทำให้เรากล้าทำในสิ่งที่ไม่น่ารักออกไปโดยมั่นใจว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่หายไปจากชีวิตเรา ต่างจากคนอื่นที่อาจจะรับพฤติกรรมของเราไม่ได้
การทำร้ายจิตใจคนที่อยู่ใกล้ตัวเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากหลายสาเหตุ การมีสติและรู้สาเหตุของพฤติกรรมด้านลบของตนเองจะนำมาซึ่งผลลัพธ์เชิงบวกในความสัมพันธ์ ช่วยลดความเจ็บปวดที่อาจจะเกิดขึ้นโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่ทั้งนี้ เพื่อความสัมพันธ์ที่ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ การให้ความสำคัญและแคร์ความรู้สึกของคนที่ตนเองรักเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
ที่มา youniversetherapy , alljit
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส