ปัญหาหน้ามัน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่กวนใจใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้หญิง เพราะไม่เพียงแต่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายผิวหน้าเท่านั้น แต่งหน้าทีไรเครื่องสำอางก็เยิ้มง่าย แถมยังเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดสิวอีกด้วย ดังนั้น คนที่มีผิวหน้ามันควรเลือกสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบางคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีการดูแลผิวหน้าของตนเอง Hack for Health มีวิธีการดูแลผิวหน้าสำหรับคนหน้ามันมาแนะนำ
ผิวมันเกิดจากอะไร ?
ต่อมไขมัน เป็นต่อมขนาดเล็กในผิวหนังที่มีอยู่ในทุกส่วนของผิวหนัง ยกเว้นบริเวณฝ่ามือและฝ่าเท้า ต่อมเหล่านี้จะผลิตซีบัมซึ่งเป็นสารน้ำมันที่เคลือบและปกป้องผิว เมื่อร่างกายผลิตซีบัมมากเกินไปผิวจะกลายเป็นผิวมันได้ นอกจากนี้ ซีบัมยังสามารถผสมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเศษอื่น ๆ ซึ่งอาจอุดตันรูขุมขนต้นเหตุเหล่านี้อาจนำไปสู่การเกิดสิวได้
วิธีทำให้ผิวมันน้อยลง
1.ทำความสะอาดผิวเป็นประจำ
ผู้ที่มีผิวหน้ามันควรล้างทำความสะอาดหน้าอย่างเป็นประจำ และควรใช้สบู่สูตรอ่อนโยน มีค่า pH สมดุล เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH มากกว่า 7 ขึ้นไป อาจทำให้ผิวแห้ง หยาบ ขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นทำให้เกิดสิวเพราะแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี
2.ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม
การดื่มแอลกอฮอล์เรื้อรังสามารถทำลายหลอดเลือดได้ และอาจทำให้หลอดเลือดและต่อมน้ำมันขยายตัว ทำให้รูขุมขนของผิวหนังขยายใหญ่ขึ้นเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวต่าง ๆ สิ่งสกปรกก็จะเข้าไปอุดตันในรูขุมขนได้ง่ายและเป็นสิวในที่สุด ดังนั้น ผู้ที่มีผิวหน้ามันจึงควรลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์
3.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดซาลิไซลิก
การขัดผิวอย่างอ่อนโยนโดยใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่มีสารเคมี เช่น กรดซาลิไซลิกทุกสัปดาห์สามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว น้ำมันส่วนเกิน และเศษอื่น ๆ ออกจากผิวได้ และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดควรใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวเบา ๆ เป็นวงกลมเล็ก ๆ ประมาณ 30 วินาที หรือน้อยกว่าเพื่อไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรืออักเสบ
4.ใช้กระดาษซับมัน
กระดาษซับมันจะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินจากผิวได้ โดยการกดกระดาษซับมันซับเบา ๆ กับผิวเป็นเวลาสองสามวินาที และไม่ควรถูที่ใบหน้าแรง ๆ เพราะจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ ยิ่งในผู้หญิงการใช้กระดาษซับมันถูที่ใบหน้าแรง ๆ อาจทำให้หน้าเป็นคราบจากเครื่องสำอางได้เช่นกัน โดยกระดาษซับมันควรใช้แค่ 1 ครั้งต่อ 1 แผ่น และไม่ควรใช้ร่วมกันเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก
5.เติมความชุ่มชื้นให้ผิวสม่ำเสมอ
บางคนคิดว่ามอยเจอร์ไรเซอร์หรือครีมเพิ่มความชุ่มชื้นจะเพิ่มปริมาณน้ำมันบนผิวหรือทำให้รูขุมขนอุดตัน ยิ่งหน้ามันอยู่แล้วยิ่งไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ความจริงแล้วคนผิวมันสามารถใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำมัน มีความบางเบา และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันได้ เพื่อลดปัญหาผิวมันขาดน้ำ หรือหน้าเป็นสิว
หากคนผิวมันไม่ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เมื่อผิวต้องเผชิญกับมลภาวะต่าง ๆ มอยเจอร์ไรเซอร์ในผิวของเราก็จะหายไปอย่างรวดเร็ว ต่อมไขมันก็จะเข้าใจว่าตอนนี้ผิวกำลังแห้งและขาดน้ำ เลยผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้หน้ามันและรูขุมขนอุดตันก่อเกิดสิวเพิ่มขึ้นตามมา
โดยคุณสามารถใช้มอยเจอร์ไรเซอร์สูตรเข้มข้นในตอนกลางคืน และอาจจะใช้ครีมหรือเซรั่มเนื้อบางเบาในตอนเช้าแทนเพื่อบรรเทาความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะบนใบหน้า
6.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีชาเขียว
สารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอลในชาเขียวสามารถช่วยรักษาสภาพผิวต่าง ๆ รวมถึงผิวมันด้วย งานวิจัยในปี 2560 พบว่าโพลีฟีนอลในชาเขียวอาจลดการหลั่งไขมันได้ โดยความมันบนใบหน้าอาจลดลงได้จากการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ โทนเนอร์ หรือการล้างหน้าด้วยสารสกัดจากชาเขียว 3%
7.เลือกรับประทานอาหารที่ดี
อาหารและเครื่องดื่มที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจกระตุ้นการอักเสบและการผลิตไขมันได้ ผู้ที่มีผิวมันควรพยายามเน้นทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลต่ำ เช่น
- ผักสด
- ผลไม้สดบางชนิด
- พืชตระกูลถั่ว
- ข้าวโอ๊ตและธัญพืชเต็มเมล็ด
นอกจากนี้ หากพิจารณาจากค่าดัชนีน้ำตาลแล้ว นมวัวยังสามารถกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบได้อีกด้วย
8.ลดความเครียด
ความเครียดสามารถกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน รวมถึงคอร์ติซอลที่ช่วยผลิตซีบัม หากคุณสามารถลดความเครียดของตนเองได้ ก็อาจช่วยลดการผลิตน้ำมันในผิวได้เช่นกัน โดยแต่ละคนมีเทคนิคในการลดความเครียดที่ต่างกัน เช่น
- เล่นโยคะ
- ฝึกสมาธิ
- หลีกเลี่ยงนิโคตินหรือแอลกอฮอล์
- นอนหลับให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
9.ล้างเครื่องสำอางก่อนเข้านอน
หากคนเราแต่งหน้าทิ้งไว้ข้ามคืน อาจทำให้รูขุมขนอุดตันและระคายเคืองผิวได้ จำเป็นต้องล้างเครื่องสำอางก่อนนอนเสมอ โดยใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนและมีค่า pH สมดุล และอย่าลืมซับหน้าเบา ๆ ให้แห้งด้วยผ้าสะอาดแทนการขัดถูที่อาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้
10.กินยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิดอาจช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนที่สามารถกระตุ้นการผลิตน้ำมันส่วนเกินได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ช่วยลดการผลิตซีบัม ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาคุมกำเนิดทุกครั้ง
11.ฉีดโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของต่อมไขมัน และลดการผลิตไขมันได้ อาจให้ผลลัพธ์ภายใน 1 สัปดาห์ และอาจต้องได้รับการรักษาทุก 2-3 สัปดาห์ หรือหลายเดือนเพื่อการรักษาที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
สภาพผิวแต่ละคนมีความแตกต่างกัน โดยปกติแล้วคนเรามักจะประสบปัญหาผิวมันในช่วงหนึ่งของชีวิต คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะกับตนเองเพื่อแก้ไขปัญหาผิวเบื้องต้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ปัญหาผิวมันหรือปัญหาสิวที่เกิดจากความมันบนใบหน้าเริ่มกระทบต่อร่างกายและจิตใจของคุณ ให้คุณปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำหรือทำการรักษาที่ตรงจุดต่อไป
ที่มา medicalnewstoday , aad.org
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส