มีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับผลกระทบของการ “ช่วยตัวเอง” หรือ การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองของผู้ชาย และที่มักถูกพูดถึงกันบ่อยครั้งนั่นคือ การช่วยตัวเองบ่อย ๆ อาจทำให้เสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก! เพื่อขจัดความกลัวของเหล่าคุณผู้ชายทั้งหลาย Hack for Health จะมาไขข้อเท็จจริงเรื่องนี้
การหลั่งน้ำอสุจิ
การมีเพศสัมพันธ์กับการหลั่งน้ำอสุจิเป็นประจำอย่างน้อย 3 หรือ 4 ครั้งต่อสัปดาห์ สามารถช่วยให้สเปิร์มมีคุณภาพที่ดีได้ และสเปิร์มที่แข็งแรงจะมีการเคลื่อนไหวและสัณฐานวิทยาที่ดี โดยการเคลื่อนไหวของสเปิร์ม หมายถึงความสามารถในการว่ายน้ำของตัวอสุจิ และสัณฐานวิทยาของตัวอสุจิ หมายถึงรูปร่างของตัวอสุจิ
โดยสเปิร์มปกติจะมีส่วนหัวที่มีรูปร่างในลักษณะที่สามารถเจาะเข้าไปในไข่ได้ง่าย ซึ่งสเปิร์มที่มีรูปร่างผิดปกติอาจไม่สามารถเจาะไข่ได้ เนื่องจากส่วนหัวมีรูปร่างผิดรูป และสเปิร์มที่ว่ายน้ำเก่งจะไปถึงไข่ได้ในไม่ช้า
สเปิร์มคุณภาพดี
สเปิร์มที่มีคุณภาพดีที่สุดจะถูกผลิตขึ้นเมื่อผู้ชายไม่หลั่งออกมาเป็นเวลา 2-3 วัน หากคุณกำลังพยายามมีลูกตามธรรมชาติ ขอแนะนำให้หยุดการช่วยตัวเองสัก 2-3 วัน แล้วค่อยมีเพศสัมพันธ์ สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ของภรรยาคุณได้
โดยการหลั่งของผู้ชายแต่ละครั้งจะปล่อยสเปิร์มออกมาประมาณ 300 ล้านตัว และร่างกายของผู้ชายจะผลิตสเปิร์ม 12,000 ล้านตัวต่อเดือน
การช่วยตัวเองทำให้ความไวทางเพศลดลงหรือไม่ ?
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสมรรถภาพทางเพศ การกระตุ้นที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการช่วยตัวเอง สามารถช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศได้
งานวิจัยชิ้นหนึ่งในปี 2018 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Sexual and Relationship Therapy รายงานว่าการใช้เครื่องสั่นอาจเป็นประโยชน์ต่อการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งน้ำอสุจิ และภาวะการถึงจุดสุดยอด หรือภาวะถึงจุดสุดยอดได้ยาก นอกจากนี้ การช่วยตัวเองอาจส่งผลต่อความไวระหว่างมีเพศสัมพันธ์ด้วย
สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองบ่อยเกินไป เสี่ยงเป็นหมัน ?
การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง และภาวะมีบุตรยากไม่มีความเชื่อมโยงกัน! เนื่องจากการช่วยตัวเองไม่มีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ การมีเพศสัมพันธ์มากเกินไปหรือการช่วยตัวเองมากเกินไปไม่ส่งผลต่อจำนวนสเปิร์ม แม้ว่ามันอาจทำให้ปริมาณสเปิร์มสำรองของคุณลดลงชั่วคราวจนกว่าร่างกายจะผลิตใหม่ หากคุณมีเพศสัมพันธ์บ่อย คุณอาจพบว่าปริมาณน้ำอสุจิที่คุณหลั่งออกมาลดลง ซึ่งเป็นเพียงชั่วคราวและไม่จำเป็นต้องกังวล ให้พักผ่อนสัก 2-3 วัน แล้วร่างกายของคุณก็จะผลิตสเปิร์มมากขึ้น
หากคุณกำลังเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก คุณควรปรึกษาเรื่องพฤติกรรมทางเพศของคุณกับแพทย์ เพื่อจะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการรักษาและการผลิตสเปิร์มที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการช่วยตัวเอง ดังนี้
- การขาดน้ำ
- ความไม่สมดุลของฮอร์โมน
- การเปลี่ยนแปลงของขนาดหรือรูปร่างขององคชาต
- จำนวนอสุจิลดลง
- สูญเสียการมองเห็น
- เป็นสิว
- ฝ่ามือมีขนดก
- สมรรถภาพทางเพศลดลง
- มีความใคร่ต่ำ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการช่วยตัวเองมากเกินไปอาจมีผลเสีย แต่หลายคนพบว่าการช่วยตัวเองคนเดียวหรือกับคู่นอนสามารถเพิ่มชีวิตทางเพศของพวกเขาได้
นอกจากนี้ การช่วยตัวเองอาจเกี่ยวข้องกับประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ และถือเป็นหนึ่งในรูปแบบกิจกรรมทางเพศที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากไม่มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ประโยชน์ของการช่วยตัวเอง
การช่วยตัวเองเป็นกิจกรรมทางเพศที่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคุณ โดยมีงานวิจัยที่ระบุว่าการช่วยตัวเองมีประโยชน์ เช่น
- คลายความเครียดสะสม
- นอนหลับได้ดีขึ้น
- ป้องกันความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
- ผ่อนคลาย
- รู้สึกเพลิดเพลินและสนุกสนาน
- บรรเทาอาการตะคริว
- ปลดปล่อยความตึงเครียดทางเพศ
- มีเพศสัมพันธ์ที่ดีขึ้น
- เข้าใจความต้องการของตัวเองมากขึ้น
จากการศึกษาหนึ่งในผู้หญิงที่แต่งงานแล้วในปี 2558 ผู้ที่ช่วยตัวเองพบว่าถึงจุดสุดยอดมากขึ้น มีความภาคภูมิใจในตนเองสูงขึ้น ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้น และความพึงพอใจในชีวิตแต่งงานและชีวิตทางเพศมากขึ้น
เสพติดการช่วยตัวเอง
บางคนสามารถพัฒนาสู่การเสพติดการช่วยตัวเองได้ และอาจทำให้มีพฤติกรรมเช่นนี้
- ไม่สนใจงานบ้านหรือกิจกรรมประจำวัน
- ขาดงานหรือขาดเรียน
- ออกห่างการนัดพบเพื่อนหรือครอบครัว
- ขาดการเข้าสังคม
การช่วยตัวเองอาจถือว่ามากเกินไปหากมันสร้างความเสียหายต่อความสัมพันธ์และส่วนอื่น ๆ ในชีวิตของคุณ หรือหากมันรบกวนการทำงานหรือการเรียนของคุณ นอกจากนี้ ยังอาจทำร้ายความสัมพันธ์และมิตรภาพของคุณ เนื่องจากคุณไม่ได้ใช้เวลากับคนที่คุณรักมากเท่าที่ควร หรือคุณไม่ใส่ใจกับความต้องการของคู่รักนั่นเอง
ดังนั้น ใครที่กำลังสงสัยหรือมีความเชื่อว่าการช่วยตัวเองบ่อย ๆ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นหมันก็สบายใจได้เลย เพราะการช่วยตัวเองไม่ได้มีผลต่อภาวะการเจริญพันธุ์แต่อย่างใด แต่หากคุณช่วยตัวเองบ่อยเกินไป จนไม่สนใจสังคมรอบข้าง สิ่งนี้อาจจะกำลังกระทบต่อความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักได้
ที่มา medicoverfertility , healthline
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส