ของเครื่องใช้ในบ้านที่เชื่อว่าทุกคนต้องทำความสะอาดหรือซักล้างอย่างเป็นประจำ นั่นคือ ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม เพราะนอกจากจะกำจัดฝุ่นต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ตามที่นอนแล้วยังทำให้รู้สึกที่นอนนุ่ม สบาย มีกลิ่นหอมน่านอนอีกด้วย แต่อีกสิ่งหนึ่งที่คุณอาจจะมองข้ามไปนั่นคือการทำความสะอาด “หมอน”
ปกติแล้วคนเรามักใช้เวลาอยู่บนเตียงประมาณ 8 ชั่วโมงต่อคืน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของชีวิต นั่นหมายความว่าเราใช้เวลาประมาณ 1 ใน 3 ของชีวิตไปกับหมอน และตลอดเวลานั้นหมอนมักจะสะสมทั้ง ฝุ่น เชื้อรา เหงื่อ น้ำลาย รวมถึงน้ำมันธรรมชาติจากร่างกายของคุณ
จากการวิจัยปี 2018 ระบุว่าสิ่งเหล่านี้สามารถนำไปสู่การระคายเคืองทางเดินหายใจหรืออาการแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว การซักหมอนเป็นประจำจะสามารถลดสิ่งระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้
จำเป็นต้องซักหมอนจริงหรือ ?
อย่างที่บอกว่าคนเรามักลืมหมอนในรายการสำหรับซักทำความสะอาดทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย และสนใจซักแต่เพียงปลอกหมอนเท่านั้น การซักปลอกหมอนเป็นวิธีหลักอย่างหนึ่งในการรักษาความสะอาดบริเวณที่นอนของคุณ
อย่างไรก็ตาม ปลอกหมอนที่สะอาดจะช่วยได้มากก็ต่อเมื่อหมอนของคุณผ่านการซักทำความสะอาด เพราะแม้แต่ปลอกหมอนที่ซักเป็นประจำในบางครั้งก็อาจมีรู หรือมีร่องรอยการขาด ดังนั้นจึงไม่สามารถปกป้องหมอนของคุณจากการสะสมสิ่งสกปรกและแบคทีเรียเมื่อเวลาผ่านไปได้ทั้งหมด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการซักหมอนจึงเป็นเรื่องสำคัญ
โดยหมอนของคุณอาจสะสมสิ่งสกปรกและสารก่อภูมิแพ้ในระดับที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ทำจากหมอน จากการศึกษาในปี 2021 พบว่าหมอนอาจต้านทานสิ่งสกปรกและไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อทำจากสิ่งต่อไป
- หมอนโฟมน้ำยาง
- หมอนเมมโมรี่โฟม
- หมอนเจล
การวิจัยปี 2015 ยังแนะนำว่าหมอนขนเป็ดอาจสะสมฝุ่นน้อยกว่าหมอนใยสังเคราะห์บางประเภท ในขณะเดียวกัน หมอนที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ อาจสะสมฝุ่นมากขึ้นและต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น
ควรซักหมอนบ่อยแค่ไหน ?
โดยทั่วไปคุณอาจต้องการซักหมอนปีละ 2-3 ครั้งเป็นอย่างน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของหมอน ซึ่งจะมีหลักเกณฑ์ที่แตกต่างกันบางประการ ดังนี้
- หมอนที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์หลายชนิดจะสะสมฝุ่นได้เร็วกว่า และสามารถใช้เครื่องซักผ้าซักทำความสะอาดได้ คุณจึงสามารถซักได้บ่อย ๆ
- หมอนอื่น ๆ เช่น หมอนเจลหรือหมอนเมมโมรี่โฟม อาจต้องซักน้อยกว่าหรือทำความสะอาดเฉพาะจุดเท่านั้น
ไม่ว่าคุณจะมีหมอนประเภทไหน ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าคุณจะต้องเปลี่ยนหมอนเมื่อถึงเวลาสมควร
หมอนคุณภาพดีอาจมีราคาสูงกว่า แต่มีแนวโน้มที่จะกันฝุ่นได้มากกว่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า เช่น คุณอาจต้องเปลี่ยนหมอนยางพารา หรือหมอนเมมโมรี่โฟมทุก ๆ 3-4 ปี
แม้ว่าหมอนใยสังเคราะห์จะมีราคาถูกกว่าและทำความสะอาดง่ายกว่า แต่หมอนใยสังเคราะห์ก็มีแนวโน้มที่จะทนทานน้อยกว่า ซึ่งหมายความว่าคุณอาจต้องเปลี่ยนหมอนบ่อยกว่า เช่น หมอนที่ทำจากโพลีเอสเตอร์ บ่อยที่สุดทุก ๆ 6 เดือนถึง 2 ปี นอกจากนี้ คุณอาจต้องซักหรือเปลี่ยนหมอนบ่อยด้วยสาเหตุต่อไปนี้
- ทำอาหารหกใส่และจำเป็นต้องทำความสะอาดจุดนั้น
- นอนกับสัตว์เลี้ยงที่ผลัดขน เช่น แมวหรือสุนัข
- กินหรือดื่มขณะอยู่บนเตียง
วิธีซักหมอน
คุณสามารถซักหมอนบางประเภทด้วยเครื่องซักผ้าได้ แต่หมอนบางประเภทอาจจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
1.หมอนเมมโมรี่โฟมและหมอนเจล
หมอนเมมโมรี่โฟมและหมอนเจลไม่สามารถใส่ในเครื่องซักผ้าได้ แต่สามารถทำความสะอาดเฉพาะจุดได้ตามต้องการด้วยสบู่หรือผงซักฟอก
2.หมอนขนเป็ด
หมอนขนเป็ดหลายใบสามารถซักด้วยเครื่องได้ตราบใดที่คุณใช้น้ำเย็นและการตั้งค่าการซักที่นุ่มนวล
3.หมอนบัควีท
หมอนบัควีทเต็มไปด้วยเปลือกบัควีท ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถซักหมอนทั้งใบในน้ำด้วยมือหรือในเครื่องซักผ้าได้ ในการทำความสะอาดหมอนประเภทนี้คุณจะต้องนำไส้ในออกและผึ่งแดดให้อากาศถ่ายเทและฆ่าเชื้อ
4.หมอนโพลีเอสเตอร์
หมอนส่วนใหญ่ที่ทำจากโพลีเอสเตอร์และวัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ สามารถซักเครื่องได้
นอกจากนี้ การผึ่งลมบนหมอนทุก ๆ เดือนหรือมากกว่านั้นเป็นอีกวิธีในการป้องกันไม่ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสมตัว โดยในการผึ่งหมอนให้ตากไว้กลางแจ้งในวันที่แดดจัด และควรเป็นวันที่อากาศถ่ายเทสะดวก ปล่อยให้แสงแดดทำหน้าที่ในการชำระล้างสิ่งปนเปื้อน
พอรู้อย่างนี้แล้วหลังจากนี้ก็อย่าลืมหันมาใส่ใจหมอนที่คุณใช้หนุนนอนเป็นประจำว่าควรนำออกมาซักทำความสะอาดบ่อยมากน้อยแค่ไหน หรือใครที่หมอนมีอายุการใช้งานมานานหลายปีก็อาจถึงเวลาที่ควรเปลี่ยน เพราะหมอนที่ดีและสะอาดจะช่วยให้คุณนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน
ที่มา healthline , webmd
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส