ยิปซี คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ ดาราสาวฮอตที่ปัจจุบันหันมาเป็นยูทูบเบอร์ และเป็นเจ้าของแบรนด์ขนมคลีนสุดเฮลตี้อย่าง K. It’s klean ด้วยไลฟ์สไตล์การดูแลสุขภาพแบบสาวสมัยใหม่ ทำให้ยิปซีกลายเป็นไอดอลสายสุขภาพ หลายคนอยากมีสุขภาพและรูปร่างที่ดีเหมือนเธอ แต่ก่อนที่จะเป็นยิปซีไอดอลเรื่องการดูแลสุขภาพของใครหลาย ๆ คน เธอเองก็เคย ‘ผิดพลาด’ มาเหมือนกัน

อยากให้คุณยิปซีเล่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้หันมาสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพ

ยิปซี: ถ้าช่วงแรก ๆ เรามีวิถีการกินที่ Unhealthy มาก ๆ แล้วก็เป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องสารอาหาร หรือคุณประโยชน์อะไร เพราะว่าเป็นเด็กที่เกิดมาผอมแห้งแรงน้อยแล้วก็เป็นเด็กที่กินยังไงก็จะผอมมาก ๆ เพราะฉะนั้นเรื่องของหุ่นเราก็ไม่กังวล จนป่วยเข้าโรงพยาบาลแอดมิด ปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง จากนิสัยการกินที่แย่ของตัวเอง และช่วงนั้นเป็นช่วงเริ่มเข้าวงการเป็นนักแสดงถ่ายละครใหม่ ๆ เราเลยรู้สึกว่าเราเป็นแบบนี้ต่อไปไม่โอเคแล้ว ทั้งสิ่งที่เราทำต่ออาชีพตัวเอง หรือสิ่งที่เราทำให้คนอื่นเดือดร้อน และครอบครัวที่ต้องมาคอยเฝ้า เรารู้สึกว่าเราต้องหยุด เลยเริ่มแพลนว่าจะเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตของเราไปเลยไม่ให้เป็นเหมือนเดิม

เลยมารีเสิร์ชในกูเกิลว่าการกินให้เฮลตี้เป็นยังไง แต่ก่อนเราเป็นคนออกกำลังกายนะ แต่กินแย่ เมื่อก่อนที่ Unhealthy คือเราไม่กินน้ำเปล่าเลย ตลอดวันน่าจะแก้วเดียว ไม่ชอบอาหารที่เป็น Food คือเราใช้ชีวิตอยู่ด้วยขนมยี่ห้อต่าง ๆ มื้อหนึ่งประมาณ 6 ถุงกลาง วันละ 4 – 5 มื้อ และเรากินแบบนั้นอยู่หลายปีมาก ๆ ในช่วงวัยรุ่น ท้ายที่สุดร่างกายเราก็ต่อต้าน

สัญญาณอะไรที่ร่างกายพยายามบอกเราว่ากำลังทำลายสุขภาพตัวเองอยู่

ยิปซี: ก็เพลีย ไม่มีแรง ไม่มีพลังงาน มันให้พลังงานก็จริงแต่มันเป็นพลังงานจากสิ่งไม่ดี ร่างกายเราก็คงเป็นพิษเพราะมันมีแต่สารเคมี เราก็เลยหักดิบเลย ก็ไปเจอช่วงนั้นที่ต่างประเทศเริ่มมีการกินคลีนขึ้นมา ซึ่งในตอนนั้นที่ไทยยังไม่ค่อยดัง เราก็มองว่าน่าลอง เช่น ปลาแซลมอนเอามาย่างเอง ผักเอามาต้ม เหมือนเวลาที่ทุกคนเห็นภาพอาหารคลีนที่ดูไม่มีรสชาติใส่เครื่องปรุงน้อย ๆ ดูไม่อร่อยแน่ ๆ เรากินอย่างนั้นเลยในช่วงแรกและมันไม่อร่อยจริง ๆ เราฝืน แต่ความโชคดีของเราคือเราทำไปแค่ 1 อาทิตย์ ร่างกายเราเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

ตอนนั้นที่หันมากินอาหารคลีนคือเราตัดเรื่องหุ่นออก และสนใจเรื่องสุขภาพล้วน ๆ เลยใช่ไหม

ยิปซี: ตัดออกค่ะ ตอนนั้นรู้สึกระบบภายในสะอาดแบบสะอาดจริง ๆ เมื่อก่อนเราเป็นคนขับถ่ายยาก แต่พอกินคลีนได้ 1 อาทิตย์ มันกลายเป็นเราขับถ่ายได้อย่างธรรมชาติทุกวัน ไม่ต้องพยายามกินไฟเบอร์ ไม่ต้องกินยาที่ช่วยเรื่องการขับถ่าย แล้วตอนนั้นต้องพยายามกินน้ำให้เยอะขึ้นเหมือนคนปกติ

พอมันรู้สึกได้ถึงภายในว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงภายในเวลาที่เร็ว เราเลยรู้สึกสนุก เหมือนคนไดเอตที่เห็นผลเร็วมันจะรู้สึกอยากทำต่อ ช่วงนั้นเราเลยอินกับการกินที่ดี การออกกำลังกาย และช่วงนั้นเราก็เริ่มไปฝึกต่อยมวย เต้นซุมบ้า กลายเป็นช่วงที่ลองเพราะไฟแรง 

ช่วงนั้นก็เลยออกกำลังกายหนักมาก ๆ ?

ยิปซี: เรายอมรับเลยว่าออกหนัก น่าจะ 5 วันอย่างต่ำ สูงสุดคือทุกวัน แต่เราชอบด้วยเพราะว่าเราสนุกกับวิถีใหม่ที่เราค้นพบ แล้วเรารู้สึกว่ามันดี จริง ๆ แล้วการออกกำลังกายมันจะหลั่งสารอะดีนาลิน ที่ทำให้เรามีความสุข บางคนเขาก็เสพติดการได้รู้สึกแบบนั้น ซึ่งเราว่าเราก็เสพติดแหละ

จากที่เราเป็นคนผอมอยู่แล้ว พอมาออกกำลังกายเพิ่มอีก ร่างกายภายนอกเปลี่ยนไปไหม 

ยิปซี: เปลี่ยนค่ะ แต่ไม่ได้เปลี่ยนเพราะออกกำลังกายอย่างเดียว แต่ว่าเราเปลี่ยนเพราะอาหารการกินที่เปลี่ยนไปของเราด้วย คือตอนแรกเราเป็นผอมแบบดูป่วย แต่พอเราเปลี่ยนการกินที่ดีขึ้น สารอาหารที่ครบขึ้น โปรตีนโอเค แล้วก็ออกกำลังกายควบคู่ด้วย ตอนนั้นเราก็เริ่มมีกล้ามซึ่งไม่ใช่ตัวใหญ่นะ มันลีน ท้องเหมือนมีร่อง 11 ขึ้นมาชัด เราชอบตัวเองในเวอร์ชันประมาณนี้รู้สึกว่ามันดูแข็งแรง ดูสปอต และดูเฮลตี้ดีนะ ช่วงนันก็เลยเสพติดเข้าไปใหญ่ ประกอบกับตอนนั้นเราก็ได้รับผลตอบรับจากทางสังคมที่ดีด้วย ชมว่าหน้าท้องสวยจัง หุ่นดีจัง ช่วงนั้นก็เลยเป็นช่วงที่ออกกำลังกายจริงจัง

แต่จริง ๆ ก็ทราบมาว่าเพราะการออกกำลังกายนี่แหละที่ทำให้คุณยิปซีมีอาการกระดูกสันหลังคด อยากให้แชร์ประสบการณ์นี้หน่อยค่ะ

ยิปซี: อันนี้แหละค่ะเป็นประสบการณ์ตรงที่เรารู้สึกเสียใจที่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา เพราะจนถึงทุกวันนี้เราต้องอยู่กับความเจ็บปวด เราต้องทำกายภาพรักษาอย่างต่อเนื่อง ก็เลยอยากเตือนทุกคนที่อาจจะชอบในการออกกำลังกาย เพราะว่าตอนนั้นมันไม่อยู่ในหัวเราเลยว่าสิ่งนี้มันจะมีอะไรไม่ดี เราคิดว่าเราก็ดูแลตัวเอง ทำดีแล้ว เวลาตรวจสุขภาพประจำปีก็ออกมาว่าดี เหมือนเรามองไม่เห็นหนทางแห่งความพลาด ซึ่งอันนี้เราถึงได้รู้ว่า อ๋อ ตอนนั้นเราบ้าพลัง เราทำไปเพราะความสนุกก็จริง แต่เราลืมเรื่องของฟอร์มความถูกต้อง ซึ่งสิ่งที่ทำให้เราเป็นกระดูกสันหลังคดก็คือ มันเหมือนกับว่าเราออกกำลังกายในฟอร์มที่ผิดในน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะเป็นเวลานานติดต่อกัน มันก็เลยเบี้ยว วันที่เราลองไปเช็กมันก็เป็นวันที่เรารู้สึกว่ามีอาการเจ็บจี๊ดร้าวจากหลังไปที่ขาแล้วขาก็คือชาแล้ว พอไปเช็กเขาก็สรุปออกมาว่าเป็นกระดูกสันหลังคด 

เหมือนเรามองไม่เห็นหนทางแห่งความพลาด เราทำไปเพราะความสนุกแต่เราลืมเรื่องของฟอร์มความถูกต้อง สิ่งที่ทำให้เราเป็นกระดูกสันหลังคด ก็คือเราออกกำลังกายในฟอร์มที่ผิดในน้ำหนักที่เยอะเป็นเวลานาน

ทุกวันนี้รักษาอย่างไร แล้วต้องหยุดออกกำลังกายไปเลยไหม 

ยิปซี: เคสเราถือว่าเป็นไม่เยอะ ก็ยังสามารถดูแลรักษาตัวเองเพื่อให้มันดีขึ้นได้ เราเลยต้องทำเป็นการออกกำลังกายแบบเชิงกายภาพ เป็นการฟื้นฟู ประกอบกับการเล่นพวกพิลาทิส และต้องหานักกายภาพเพื่อทำการคลายและยืด ครั้งหนึ่งหลายพันบาท และวิถีในการออกกำลังกายเมื่อก่อนที่เราเคยยกเวท 20 โลได้แบบสบายมาก แต่พอเราต้องเปลี่ยนมาเป็นการออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งแบบฟื้นฟู เรายกอะไรไม่ได้เลย เขาไม่ให้เรายกน้ำหนัก ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดเพราะว่าฟอร์มเรามันบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว 

คนทั่วไปเวลาไปออกกำลังกายกับเทรนเนอร์ สิ่งที่ต้องสังเกตตัวเองว่ารับไม่ไหวคืออะไร จุดไหนที่ต้องคิดว่าหนักไป

ยิปซี: ต้องให้โจทย์กับเทรนเนอร์ว่าอยากให้เน้นไปเรื่องของการดูฟอร์มให้ถูกต้องหน่อย ประโยคนี้อยากให้ใส่เข้าไปด้วย ไม่ว่าจุดประสงค์ของคุณจะเป็นการลดน้ำหนัก บางคนอยากลด บางคนอยากเพิ่ม บางคนอยากปั้นหุ่น แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม Safety เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เราไม่เคย Concern เลย 

ข้อผิดพลาดที่สองที่เราเรียนรู้และอยากจะแชร์ก็คือ อยากให้เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง หลายครั้งมาก ๆ ที่เรารู้สึกว่าตอนยกอยู่ว่าแบบ “เฮ้ย เจ็บ” แต่เราดันเงียบ แล้วเราดันคิดว่ามันก็ต้องเจ็บบ้างสิ เรารู้สึกว่าเราเก่ง เราทำได้ เราไปต่อ เพื่อพิสูจน์อะไรบางอย่างให้กับตัวเอง ให้มันรู้สึกภูมิใจว่าแบบฉันยกได้หนัก ฉันทำตามโจทย์ที่เทรนเนอร์ให้ทำได้ คือตอนนั้นมันมีหลายครั้งมากที่เราย้อนกลับไปแล้วรู้สึกว่าตอนนั้นฝืนนี่ ตอนนั้นต้องฟังเสียงเอ๊ะในตัวเองที่มันพยายามเตือนเรามาแล้วว่าอันนี้เกินไป แต่เป็นเราเองที่ดันทุรังและไม่ได้ฟังเสียงร่างกายตัวเอง 

มีคนเป็นแบบเดียวกันเยอะไหม

ยิปซี: เยอะค่ะ เท่าที่เราทราบส่วนใหญ่จะเป็นสายออกกำลังกายหมดเลย บางคนก็มีเทรนเนอร์ บางคนก็เล่นที่บ้าน แต่จริง ๆ ถ้าเล่นเองที่บ้านอันนี้ความเห็นส่วนตัวถ้าไม่ได้ใช้น้ำหนักเยอะ โอกาสที่จะบาดเจ็บน่าจะน้อยกว่า เมื่อไหร่ที่คุณเข้ายิมมันจะเวทที่เรียงราย มันจะมีเครื่องมือ มันจะมีวัฒนธรรมของยิม มันจะมีการ Push จากเทรนเนอร์ว่าเพิ่มน้ำหนักไหว “ได้พี่” “ได้” “ทน” คือคำพวกนี้มันเป็นวัฒนธรรม ซึ่งจริง ๆ มันคงเป็นแรงปลุกใจแหละ แต่ว่าคนที่รู้ที่สุดก็คือคนยกไง และถ้าเขาเป็นแบบเรา เขานึกจริง ๆ ว่าเขาไหวแต่มันไม่ไหว เขาก็จะมาอยู่ในจุดที่เราอยู่

เรียกได้ว่าตอนนี้วิถีการดูแลสุขภาพของคุณยิปซีก็มีความเปลี่ยนแปลง ?

ยิปซี: โจทย์ของเราตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว มันคือการดูแลร่างกายในแบบที่ไม่ได้ไปบังคับว่าเขาจะต้องออกมารูปร่างแบบไหน แต่มันคือการทำให้เขาไม่เจ็บ ส่วนรูปร่างของเรามันจะออกมาเป็นแบบไหนก็ให้มันเป็นไป เราโฟกัสกับ Well Being ของร่างกายของเราก่อน กับอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากคือสุขภาพจิต

หลายคนมาก ๆ ที่ออกกำลังกายแบบซีเรียส คลีนแบบซูเปอร์คลีน บางคนดูแคลตลอด มันทำให้ร่างกายเราเครียดอยู่แล้ว สำหรับเรามองว่าการทำแบบนั้นอาจจะไม่ใช่การรักตัวเองที่แท้จริง เหมือนกับถ้าเรารู้สึกว่าวันนี้ทำงานมาทั้งวันเหนื่อยมากเลย ร่างกายจะบอกเราว่าอยากจะนอนพักและหลับไป แต่ไม่ได้เพราะว่าตั้งใจว่าจะวิ่งสัก 10 โล และสุดท้ายก็ฝืนไปวิ่งทั้งที่ร่างกายพยายามเตือนแล้วนะว่าต้องพัก ถ้าสำหรับเรามันไม่ใช่ เพราะว่าจริง ๆ แล้วมันคือการที่คุณฝืนสัญญาณเตือนของร่างกายตัวเอง เพื่อที่จะอยากผอม อยากดูดี แต่ว่าเวลาวันนั้นมันไม่ใช่ไง อันนั้นสำหรับเราคือไม่รักตัวเอง ซึ่งเส้นมันบางมากกับคำว่าอันไหนควรฝืน อันไหนไม่ควรฝืน 

หลายคนมาก ๆ ที่ออกกำลังกายแบบซีเรียส กินคลีนแบบซูเปอร์คลีน ดูแคลตลอด มันทำให้ร่างกายเราเครียด สำหรับเรามองว่าการทำแบบนั้นอาจจะไม่ใช่การรักตัวเองที่แท้จริง

นอกจากการดูแลสุขภาพแล้ว ตอนนี้คุณยิปซีเองก็ได้ทำแบรนด์ขนมคลีนของตัวเองด้วย อยากให้เล่าที่มาที่ไปของ K. It’s klean หน่อยค่ะ

ยิปซี: มันมาจากสิ่งที่เรากินจริง ๆ มานานหลายปีมาก ๆ จุดเริ่มต้นของแบรนด์ K. It’s klean เพราะเราทำยูทูบกับเพื่อน รายการไหนเล่าซิ และมีคนเรียกร้องอยากรู้ว่าวันหนึ่งพี่ ๆ กินอะไรบ้าง เราก็เล่าไปตามจริงว่าตอนเช้ากินอันนี้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นคนก็ให้ความสนใจสิ่งนี้มากก็คือมัฟฟินโอ๊ต อยากให้ทำให้ดู แจกสูตรได้ไหม มันก็เลยกลายเป็นอีพีต่อมาของการสอนทำมัฟฟินในไมโครเวฟ และพอมาช่วงโควิดรอบสอง เราว่างมาก แล้วเราย้ายจากคอนโดไปอยู่ที่ทาวน์เฮาส์ แล้วบ้านนั้นดันมีเตาอบ Built-in มาให้ เราก็เลยได้ลองทำมัฟฟินกินเองในเวอร์ชันเตาอบก่อน ให้หลายคนชิมทุกคนก็ชอบในรสชาติของมัน เลยอยากทำสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อสนองตัวเองและอยากจะแชร์ให้คนอื่นให้เขาได้กินอะไรที่รสชาติมันค่อนข้างโอเค ก็เป็นวัตถุดิบที่คลีน ธรรมชาติ ไม่ได้ใส่อะไรที่มันดูยุ่งยาก เราก็รู้สึกว่าอยากให้มันมีของอะไรแบบนี้ที่มันซื่อสัตย์ และรสชาติโอเคอยู่ในตลาดด้วย

ขอบคุณภาพจาก instagram.com/k.its.klean/

สุดท้ายอยากให้ฝากถึงคนที่อยากเริ่มต้นดูแลสุขภาพตัวเอง

ยิปซี: อาจจะเป็นประโยคที่ฟังดูน่าเบื่อ แต่ก็ต้องพูดเพราะมันจริง สุขภาพที่ดีจะทำให้คุณมี Quality of Life ที่ดี มันจริงมาก เพราะว่าต่อให้คุณมีงานที่โคตรดี คุณมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่คุณป่วย คุณเจ็บ ไม่ว่าจะทางกายหรือทางสุขภาพจิต มันจะรบกวนชีวิตคุณ และมันจะทำให้ชีวิตคุณไม่มีความสุขอย่างแน่นอน อย่างเรามีปัญหาที่มันกลายเป็นโรคประจำตัวไปแล้ว ทุกวันนี้จะไปต่างประเทศต้องคิดหนัก เหมือนปัญหาที่พ่อแม่เราชอบบ่นค่ะ “แม่อยากไปเที่ยวนะ แต่แม่ปวดเข่าปวดหลัง” เราไม่เคยเข้าใจเขาเลยจนเราเป็นกระดูกสันหลังคด เพราะฉะนั้นอะไรพวกนี้มันกระทบกับชีวิตเราจริง ๆ สำหรับใครที่ยังไม่ประสบด้วยตัวเองดีใจด้วยมาก ๆ ดีแล้วค่ะ แล้วก็ระวังต่อไป สำหรับใครที่เป็นแบบเราแล้วก็ไม่เป็นไร แค่ทำให้มันค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ

ต่อให้คุณมีงานที่โคตรดี คุณมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่คุณป่วย คุณเจ็บ ไม่ว่าจะทางกายหรือทางสุขภาพจิต มันจะรบกวนชีวิตคุณ และมันจะทำให้ชีวิตคุณไม่มีความสุขอย่างแน่นอน

และนี่ก็คือแง่มุมการดูแลสุขภาพของ ยิปซี คีรติ ที่อยากแบ่งปันและเตือนสายสุขภาพในคราเดียวกัน เพราะอย่างที่บอกว่าเรื่องสุขภาพไม่ควรเป็นเรื่องไกลตัว และควรจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ เพราะการมีสุขภาพกาย-ใจที่ดี จะเป็นแรงหนุนให้คุณได้ใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ

สถานที่: Kay’s Sathorn

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส