โรคกลัวความตาย (Thanatophobia) คือ อาการวิตกกังวลเกี่ยวกับความตาย โดยผู้ที่มีอาการนี้จะไม่ได้กลัวแค่ความตายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้น แต่จะกลัวความตายและการจากลาของบุคคลรอบข้างที่ตัวเองรักด้วย ซึ่งการรักษาโดยส่วนใหญ่จะต้องใช้วิธีการจิตบำบัดเข้าช่วย
โรคกลัวความตายเป็นเรื่องปกติหรือไม่ ?
เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความตาย เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ คุณอาจคิดว่าความตายจะน่ากลัว เจ็บปวด หรือโดดเดี่ยว และหากคุณกำลังเผชิญกับโรคกลัวความตายมันอาจส่งผลต่อชีวิตประจำวัน เช่น การทำงาน หรือทำให้การใช้ชีวิตในสังคมเป็นเรื่องยาก รวมถึงอาจพบอาการทางกาย เช่น อาการตื่นตระหนก เป็นต้น
โรคกลัวความตายพบได้บ่อยแค่ไหน ?
การวิจัยชี้ให้เห็นว่าความวิตกกังวลเรื่องการเสียชีวิตเป็นเรื่องปกติ และการศึกษาชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้คน 3-10 เปอร์เซ็นต์ มีความกังวลเรื่องนี้ โดยโรคกลัวความตายอาจส่งผลต่อผู้ใหญ่และเด็ก พบได้บ่อยในผู้ที่มีอาการดังนี้
- สุขภาพไม่ดี หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง
- ไม่มีความเชื่อทางศาสนา
- รู้สึกไม่พอใจกับชีวิตของตัวเอง
- มีความนับถือตัวเองต่ำ
- มีโรคกลัว หรือความผิดปกติด้านสุขภาพจิตอื่น ๆ เช่น ภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล
- มีพ่อแม่หรือคนรักที่แก่ ป่วย หรือกำลังจะตาย
- ไม่มีสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนที่ใกล้ชิด
- พบเห็นความเจ็บป่วย ความบอบช้ำทางจิตใจ หรือความรุนแรงในงานของตน เช่น ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ หรือนักสังคมสงเคราะห์
นอกจากนี้ การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่า ลูก ๆ ของพ่อแม่สูงอายุมีระดับความวิตกกังวลต่อการเสียชีวิตสูงกว่าคนเป็นพ่อแม่เสียด้วยซ้ำ
สาเหตุของโรคกลัวความตาย
เหตุการณ์หรือประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงจะกระตุ้นให้เกิดอาการดังกล่าว เช่น คุณอาจมีอาการวิตกกังวลต่อการเสียชีวิตได้หากคุณมีประสบการณ์ ดังนี้
- บาดแผลทางใจ: โรคกลัวความตายอาจเกิดขึ้นจากบาดแผลทางใจส่วนบุคคลหรือประสบการณ์ใกล้ตาย หรือจากการได้ยินคนอื่นพูดถึงประสบการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจของพวกเขา
- สภาพแวดล้อม: เด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยมีพ่อแม่ที่วิตกกังวล ปกป้องมากเกินไป หรือชอบวิจารณ์มากเกินไป มีความเสี่ยงต่อความวิตกกังวล รวมถึงโรคกลัวบางอย่าง
- ประวัติการละเมิด: ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทางร่างกาย หรือทางอารมณ์ มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคกลัวความตาย
- การเสียชีวิตของสมาชิกในครอบครัว: ความกลัวตายสามารถเกิดขึ้นได้หลังจากที่บุคคลประสบกับการเสียชีวิตของพ่อแม่หรือพี่น้อง
- คำสอนทางศาสนา: ศาสนาบางศาสนาสอนผู้คนว่าพวกเขาจะถูกลงโทษหลังความตาย สิ่งนี้สามารถนำไปสู่โรคกลัวความตายได้
- อายุ: โรคกลัวความตายมักเกิดขึ้นในคนวัยกลางคนเมื่อเริ่มประสบกับความตายของเพื่อนและครอบครัว
- การเจ็บป่วยเรื้อรัง: คนที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็งหรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังระยะลุกลาม (COPD)
- วิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุข: โรคระบาด เช่น โควิด-19
ความกลัวตายอาจเป็นต้นตอของอาการกลัวอื่น ๆ เช่น
- Aerophobia (กลัวการบิน)
- Agoraphobia (กลัวสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย และไม่สามารถขอความช่วยเหลือหากเกิดเหตุร้ายแรง)
- Aquaphobia (กลัวน้ำ)
- Arachnophobia (กลัวแมงมุม)
- Claustrophobia (กลัวความแออัด, พื้นที่จำกัด)
อาการของโรคกลัวความตาย
หากคุณเป็นโรคกลัวความตาย การคิดถึงความตายอาจทำให้เกิดความรู้สึกตื่นตระหนก หวาดกลัว หรือซึมเศร้าอย่างรุนแรง คุณอาจหลีกเลี่ยงสถานที่ หรือสถานการณ์ที่ดูอันตราย และอาจหมกมุ่นอยู่กับสุขภาพของตัวเอง คอยตรวจสอบสัญญาณของการเจ็บป่วยอยู่ตลอดเวลา เช่น ตรวจสอบความดันโลหิต หรือค้นคว้าข้อมูลทางการแพทย์ ที่สำคัญมันสามารถพัฒนาไปสู่ภาวะ hypochondriasis หรือ โรคคิดไปเองว่าป่วย ซึ่งเป็นความผิดปกติจากความกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับการเจ็บป่วย
นอกจากนี้ การคิดมากเรื่องความตายก็อาจส่งผลให้เกิดอาการ ดังนี้
- หนาวสั่น
- อาการวิงเวียนศีรษะ
- เหงื่อออกมากเกินไป
- ใจสั่น
- คลื่นไส้
- หายใจถี่ (หายใจลำบาก)
- ตัวสั่น
- ท้องเสียหรืออาหารไม่ย่อย
การวินิจฉัยโรคกลัวความตาย
ไม่มีการทดสอบเพื่อวินิจฉัยโรคกลัวความตาย แต่แพทย์จะตรวจสอบอาการของคุณอย่างรอบคอบ และถามคำถามที่หลากหลาย ซึ่งโดยทั่วไปแพทย์จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคกลัวความตายด้วยปัจจัยต่อไปนี้
- อาการคงอยู่เป็นเวลา 6 เดือน หรือนานกว่านั้น
- อาการจะเกิดขึ้นทันทีที่คุณพบกับวัตถุหรือสถานการณ์ที่น่าหวาดกลัว
- พยายามหลีกเลี่ยงวัตถุหรือสถานการณ์ที่ที่ตัวเองกลัว
- มีปัญหาการทำงานในชีวิตประจำวันเนื่องจากความกลัว
หากอาการกลัวความตายรุนแรง และส่งผลต่อความสามารถในการทำงาน หรือในสถานการณ์ทางสังคม คุณควรรับการรักษาจากแพทย์ เพราะคุณอาจได้รับประโยชน์จากการจิตบำบัดซึ่งช่วยให้คุณพูดถึงความกลัวและความวิตกกังวลในใจได้ อย่ากลัวที่จะพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับความกลัวของคุณ เพื่อหาวิธีที่ดีต่อสุขภาพในการเอาชนะภาวะนี้
ที่มา clevelandclinic , verywellhealth
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส