New Year’s Resolutions หรือปณิธานวันปีใหม่ดูจะเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญในช่วงสัปดาห์แรกของศักราชใหม่ แม้ว่าหลายคนจะไม่เคยทำมันสำเร็จเลย แต่การมีเป้าหมายก็ดีกว่าไม่มีใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งแต่ละคนก็คงมี New Year’s Resolutions ที่ต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์
ในบทความนี้จะพาไปดู New Year’s Resolutions ยอดฮิตของผู้คนในดินแดนแห่งเสรีภาพอย่างสหรัฐอเมริกากัน ว่าในประเทศที่เสรีสุด ๆ และประเทศที่เป็นมหาอำนาจของโลก ผู้คนเขามีเป้าหมายอะไรกัน
New Year’s Resolutions ยอดฮิตของชาวอเมริกันในปี 2024
ผลสำรวจมาจากเว็บไซต์สถิติอย่าง Statista จากชาวอเมริกันจำนวน 417 คน ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 64 ปี โดยเนื้อหาจะประกอบด้วยสถิติ ข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงอื่น และความคิดเห็นของผู้เขียน ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูกันเลย
1. 59 เปอร์เซ็นต์: เก็บเงินให้มากขึ้น
คนที่ตอบแบบสำรวจกว่า 59 เปอร์เซ็นต์ตอบว่าพวกเขาตั้งเป้าหมายในปี 2024 ว่าจะเก็บเงินให้ได้มากขึ้น ใครจะไปคิดว่าประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และมีรัฐสวัสดิการอย่างสหรัฐฯ ประชาชนเกินครึ่งยังคงรู้สึกว่าต้องเก็บเงินให้ได้มากขึ้น
แต่นั่นก็ไม่ได้อาจเป็นผลจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียว เพราะสถานการณ์ทั่วโลกนั้นมีความแปรปรวน สวนทางกับความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่าย หรืออาจมาจากบทเรียนจากโรคระบาดที่อาจทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นคงทางการเงิน และต้องแสวงหาหนทางเพื่อสร้างความมั่นคงที่มากขึ้นให้กับตัวเอง นอกจากนี้ ที่หลายคนอาจไม่รู้คือสหรัฐอเมริกามีสัดส่วนของคนจนราว 11.5 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 37.9 ล้านคน (ข้อมูลจากปี 2022)
2. 50 เปอร์เซ็นต์: ออกกำลังกายให้มากขึ้น
New Year’s Resolution ข้อนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเป้าหมายที่ประชากรทั่วโลกมีร่วมกัน ส่วนหนึ่งก็เพราะการตระหนักรู้เรื่องสุขภาพ และกระแสการดูแลสุขภาพ ทั้งเพื่อดูแลสุขภาพ การสร้างหุ่นที่ดูดี และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี อเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยโรคอ้วนสูงติดอันดับต้นของโลก ซึ่งโรคอ้วนก็นำไปสู่โรคเรื้อรังอื่นได้ ทั้งโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง ไปจนถึงโรคซึมเศร้า และโรคอื่น ๆ อีกมากมาย
ดังนั้น การตั้งเป้าหมายเรื่องการออกกำลังกายให้มากขึ้นปี 2024 จึงเป็นสิ่งที่ดี และจำเป็นอย่างมากนะครับเพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาพ
3. 47 เปอร์เซ็นต์: กินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น
เป้าหมายของข้อนี้ก็คงคล้ายกับข้อที่แล้ว คือ การสร้างสุขภาพ และรูปร่างที่ดี เพราะเรื่องโรคอ้วนที่ได้บอกไปในข้อก่อนส่วนใหญ่มาจากอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือจริง ๆ เรียกว่าอาหารขยะก็พอได้ เพราะคนอเมริกันมีความเคยชินกับอาหารฟาสต์ฟู้ด ยิ่งกว่าคนไทย เพราะค่าแรงกับราคาที่เข้าถึงได้ ที่มาพร้อมกับรสชาติที่ถูกปาก ส่งผลให้คนจำนวนมากเลือกกินฟาสต์ฟู้ดเป็นประจำ เพราะถูก อร่อย และสะดวก โดยสหรัฐเสียค่าใช้จ่ายไปกับการดูแลเรื่องโรคอ้วน 5,000 ถึง 7,000 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
4. 40 เปอร์เซ็นต์: ใช้เวลากับคนใกล้ตัวมากขึ้น
เมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกาดูจะเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงในทุก ๆ เรื่อง ซึ่งก็เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลายคนจึงอาจไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวมากนัก สภาพสังคมไทยก็เหมือนกัน อย่างคนที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัดนั้นต้องเข้ามาทำงานในเมืองใหญ่แบบตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต จะได้กลับบ้านไปเจอครอบครัว หรือเพื่อนฝูงก็ต้องรอให้มีช่วงหยุดยาว หรือบางคนอาจไม่ได้มาจากต่างจังหวัด แต่ก็ต้องทำงานเพื่อขยับขยายความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวอเมริกัน หรือแม้แต่คนไทยเองจะลองตั้งเป้าหมายว่าจะกลับไปเจอครอบครัว และคนใกล้ชิดเพื่อใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น
5. 35 เปอร์เซ็นต์: ลดน้ำหนัก
อีกหนึ่ง New Year’s Resolution ที่ยิ่งใหญ่ และน่าจะล้มเหลวไม่เป็นท่าของหลายคน แต่ไม่เป็นไร ปี 2024 นี้เอาใหม่ ถ้าให้อธิบายก็คงวนกลับไปเรื่องโรคอ้วน การออกกำลังกาย และอาหารตามที่ได้เล่าไปในข้อแรก ๆ นะครับ
แต่อันนี้ดูมีความเฉพาะเจาะจงในเรื่องของเป้าหมายว่าเป็นการลดน้ำหนัก ซึ่งต้องอาศัยทั้งการออกกำลังกาย และการกินอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงการดูแลสุขภาพในด้านอื่น อย่างความเครียด อารมณ์ การนอนหลับ และพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ด้วย เพราะล้วนส่งผลต่อการลดน้ำหนักได้
จุดแรกที่คนมักพลาดในการลดน้ำหนัก คือ ตั้งเป้าหมายไว้ใหญ่เกินไป เช่น จะลด 10 กิโลกรัมภายใน 1 เดือน ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยลดน้ำหนักมาก่อน ถือว่าทำได้ยาก และอาศัยพลังงานกาย พลังใจมหาศาล แล้วถ้าทำไม่สำหรับ คนส่วนใหญ่ก็มักจะท้อ และล้มเลิกความตั้งใจ ผู้เขียนแนะนำให้ตั้งเป้าหมายทีละเล็กน้อยน้อย แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้น พร้อมกับหาความรู้ในการดูแลตัวเองเพิ่มเติม ปีใหม่หน้า หุ่นสวยสับแน่นอน
6. 26 เปอร์เซ็นต์: ลดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
เป้าหมายข้อนี้อาจจะคล้ายกับข้อแรกนะครับ เพราะค่าครองชีพทั่วโลกปรับตัวขึ้นสูงพร้อมกัน อะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด โดยค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ชาวอเมริกาได้ตอบแบบสอบถามนี้ คือ พวกค่าอาหาร ค่าไฟฟ้า ค่าเดินทาง และค่าพลังงานอื่น ๆ นั่นเอง
7. 19 เปอร์เซ็นต์: ลดการใช้โซเชียลมีเดีย
ผลสำรวจอีกชิ้นของ Statista พบว่าคนอเมริการใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 2023 อยู่ที่เฉลี่ย 478 นาทีต่อวัน หรือเกือบ 8 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนคนไทยก็ใกล้ ๆ กันเลย ซึ่งถือว่าเยอะมากนะครับ เพราะถ้าคิดดูดี ๆ ใน 24 ชั่วโมง เรานอนไปแล้ว 8 ชั่วโมง ทำงานอีก 8 ชั่วโมง (ในระหว่างนั้นก็ใช้ด้วย) และอีก 8 ชั่วโมง คือ ช่วงเวลาสำหรับการพักผ่อน เราก็ยังคงใช้โซเชียลมีเดียอยู่
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นพบว่าการใช้โซเชียลมีเดียส่งผลต่อมนุษย์ ทั้งในด้านสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และจิตใจ เสี่ยงต่อปัญหาด้านความสัมพันธ์ อ้วนได้ง่ายขึ้น และสัมพันธ์กับโรคทางอารมณ์ด้วย การลดระยะเวลาการใช้โซเชียลมีเดียอาจเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่เราควรใส่ใจ สำหรับใครที่ใช้ในการทำงาน การพัฒนาตัวเอง หรือหาความรู้ก็อย่าลืมออกไปใช้ชีวิตแบบออฟไลน์กันบ้าง
8. 19 เปอร์เซ็นต์: ลดความเครียดจากการทำงาน
การทำงานกับความเครียดดูจะเป็นของที่มาคู่กันไม่ว่าจะเป็นคนชนชาติไหนก็ตาม ซึ่งความเครียดจากการทำงาน ไม่ว่าจะจากเนื้องาน หรือสังคมในที่ทำงาน ถือว่าเป็นภัยคุกคามสุขภาพที่เจอได้แทบทุกวัน และเราควรให้ความสำคัญในการจัดการกับมันมากขึ้นนะครับ อย่างการปรับมายด์เซตในการทำงาน การปล่อยวางเรื่องบางเรื่องกับคนบางคน การเวิร์กไลฟ์บาลานซ์ การพัฒนาตัวเอง ไปจนถึงการใช้เครื่องไม้เครื่องมือ อย่างพวก AI หรือเทคโนโลยีอื่นมาช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น
โดยทั้ง 8 เป้าหมาย 2024 New Year’s Resolutions ของคนอเมริกันก็น่าจะคล้ายกับสังคมในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย หรืออาจต่างกันเล็กน้อยตามบริบทของสังคมของประเทศนั้น ๆ แต่เอาเป็นว่าการมีเป้าหมายนั้นเป็นสิ่งที่ดี ในก้าวต่อไปคือการอย่างไรให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ ซึ่งสามารถอ่านบทความ จิตวิทยาด้วยเรื่อง “ทำไม ปีใหม่แล้ว ถึงเป็นคนใหม่ไม่ได้สักที” จะได้ไม่พลาดเป้าหมายของปีนี้ไป
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส