ยิ่งถ้าคุณตัดสินใจไม่ได้สักทีก็ยิ่งต้องอ่าน เพราะเรามีคำแนะนำดี ๆ มาบอก! 

ลองทำเช็กลิสต์เหล่านี้ดู ถ้าคุณตอบ “Yes” มากกว่า 4 ข้อก็อาจจะถึงเวลาที่คุณจะต้องเปลี่ยนงานแล้ว

  • เบื่องานที่ทำอยู่มาก ไม่มีความสุขเลย   
  • มีปัญหาการเมืองภายในองค์กร พนักงานที่ทำงานดีก็ดีจนทุ่มสุดแรง แต่กลับสู้พนักงานที่เป็นลูกรักไม่ได้ แม้จะทำงานไม่เก่งแต่ก็ได้รับการยกย่องอยู่เสมอ
  • อยากสัมผัสกับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ อยากออกไปสัมผัสกับสังคมที่หลากหลายมากขึ้น ดูสิสภาพแวดล้อมจะเหมือนกับออฟฟิศที่ทำอยู่ปัจจุบันนี้มั้ย 
  • ขาดความก้าวหน้าในอาชีพการงาน ทุ่มเทแทบตายแต่ไม่เห็นทางโต ตำแหน่งเดิม เงินเดือนเดิม สวัสดิการเดิม ไม่มีสิ่งใหม่ ๆให้ชีวิต
  • งานเป็นพิษ ทำให้มีปัญหาทั้งทางจิตและกาย ถ้าคุณมีความเครียดในระดับสูง สมดุลชีวิตการทำงานเป็นศูนย์ นอนไม่หลับเพราะรู้สึกเครียดกับงาน ถ้าเช่นนี้ขอบอกเลยว่าเริ่มอันตรายแล้ว  
  • บริษัทมีการปรับโครงสร้างใหม่เป็นประจำ มีการหมุนเปลี่ยนเวียนพนักงานเยอะมาก ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้หรือสั่งสมสกิลใหม่ ๆ เลย ทำงานไปก็เหมือนย่ำอยู่กับที่   

ถ้าคำตอบของคุณคือ “ใช่” มากกว่า 4 ข้อแล้วละ ก็อาจจะถึงเวลาเปลี่ยนงานแล้วก็ได้ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายมาดูข้อดีข้อเสียของการเปลี่ยนงานกันก่อน

ข้อดีของการเปลี่ยนงานใหม่ 

  • มีโอกาสอัปฐานเงินเดือนที่มากขึ้น
  • ได้ออกไปเรียนรู้ การทำงานใหม่ ๆ สังคมใหม่ที่แตกต่างเดิม
  • อาจพบความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หรือความก้าวหน้าในเรื่องของอาชีพมากกว่า
  • ได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากเดิม

ข้อเสียของการเปลี่ยนงานใหม่

  • อาจจะต้องมีการปรับตัวหนักสักหน่อยในช่วงเริ่มต้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะความเครียดได้

ทั้งนี้เราก็คงตอบให้คุณไม่ได้ว่าการเปลี่ยนงานของคุณในครั้งนี้ จะเป็นเหมือนกับการหนีเสือปะจระเข้หรือไม่ แต่หลาย ๆ คนก็ยอมเลือกเพราะทนอยู่กับบริษัทเก่าหรือวัฒนธรรมองค์กรเก่า ๆ มาอย่างยาวนานแล้ว 

เราก็ขอแนะนำเพิ่มเติมว่าให้คุณใช้ “สติ” ในการตัดสินใจให้ดี ห้ามใช้อารมณ์เด็ดขาด ถ้าตัดสินใจดีแล้วก็ลุยโลด! หางานใหม่ได้เลย

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ OOCA (อูก้า) ปรึกษาปัญหาใจ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส