วันนี้เราจะมาชวนทุกคนคุยเรื่องการรักตัวเองและความเห็นแก่ตัวกัน รักตัวเองแบบไหนถึงจะเรียกว่า “พอดี” มาดูกันเลยดีกว่า
คนที่รักตัวเอง จะมอบความเมตตาให้กับตัวเองเสมอ (Self-compassion) แม้คนรอบข้างจะพยายามกดดัน หรือพูดจาใจร้ายใส่ขนาดไหน แต่คนที่รักตัวเองก็จะปลอบโยนและให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอ และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
คนที่รักตัวเอง ก็จะพยายามทำความเข้าใจคนอื่นด้วยเช่นกัน หรือก็คือการมี Empathy มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น เพราะถ้าหากการรักตัวเองขาด Empathy ไปเมื่อไหร่ ก็จะเข้าสู่เส้นทางของความเห็นแก่ตัวเมื่อนั้น
คนที่รักตัวเองจะเลือกสิ่งที่ดีให้กับตัวเองเสมอ พร้อมนำสิ่งที่เป็นพิษในชีวิตออกไปเป็นระยะ ๆ หรือเลือกที่จะไม่ยุ่งด้วยเลย
คนที่รักตัวเองจะเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ไม่ได้คิดว่าการที่ฉันรักตัวเอง ฉันต้องได้ฝ่ายเดียว และคนที่รักตัวเองจะเป็นคนที่มีแนวคิดพื้นฐานที่ว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ดังนั้นถ้าเราอยากให้คนอื่นให้เกียรติเรา เคารพเรา เราก็ต้องมอบสิ่งนี้ให้กับคนอื่นตอบแทนกลับไปด้วย
ส่วนที่รักตัวเอง “มากเกินไป” จนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว จะใช้ชีวิตอยู่บนแนวคิดที่ว่าตัวเองต้องได้สิ่งที่ดีอยู่คนเดียว อะไรแย่งได้ก็แย่ง และไม่นึกถึงจิตใจคนอื่น ไม่คิดว่าคนอื่นก็มีความรู้สึกเช่นกัน
ความ “เห็นแก่ตัว” มักจะมาพร้อมกับ “ความกลัว” เช่น กลัวแพ้ กลัวไม่ได้มีเท่าคนอื่น กลัวน้อยหน้า กลัวคนอื่นได้ดีกว่า ฉันต้องมาเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะใช้วิธีการแบบไหนก็ตาม
และนี่ก็คือหลักการง่าย ๆ ที่ใช้ในการแยกระหว่างคนที่รักตัวเอง กับคนที่เห็นแก่ตัว ขอให้ทุกคนรักตัวเองในแบบที่พอดี มีความใส่ใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นร่วมด้วย เพียงเท่านี้ชีวิตของคุณก็จะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ และมีความสุขมากขึ้นแล้ว