ช่วงหยุดยาวไม่ว่าจะเป็นทริปท่องเที่ยวที่ต่าง ๆ เล่นน้ำสังสรรค์กับมิตรสหาย หรือพักผ่อนอยู่บ้าน การได้ตัดขาดจากงานมาสักพักใหญ่ ๆ มักทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเต็มที่ แต่พอกลับมาทำงานหลายคนกลับรู้สึกหมดไฟมากกว่าจะสดชื่น เหมือนพลังงานที่คิดว่าสะสมมาตลอดช่วงพักนั้นหายวับไปทันทีที่เปิดอีเมลหรือเช็กข้อความเรื่องงานในแชตของออฟฟิศ

สาเหตุที่เกิดอาการแบบนี้หลายคนเรียกว่า Post-Vacation Blues หรือภาวะซึมเศร้าหลังหยุดยาว ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะการปรับตัวจากโหมดอิสระกลับสู่โหมดงานมักจะกระตุ้นความเครียดและความกดดันได้ง่าย วันนี้ BT beartai จะพาไปรู้จักวิธีรับมือและฟื้นฟูจิตใจ เพื่อให้พร้อมสู้ศึกงานที่ตั้งรออยู่ตรงหน้าได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ทำไมหลังหยุดยาวพักผ่อนจึงเครียดมากขึ้น

งานวิจัยของอาเยเลต ฟิชแบค (Ayelet Fishbach) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยชิคาโก บูท (Chicago Booth) และผู้เขียนหนังสือ “Get It Done: Surprising Lessons from the Science of Motivation” ระบุว่า

  1. สาเหตุแรก คือไม่ได้พักจริง ๆ การเดินทางหรือทำกิจกรรมบางอย่างในช่วงพักผ่อนอาจไม่ได้ช่วยให้สมองของเราพักจริง ๆ เสมอไป โดยเฉพาะถ้าระหว่างพักยังต้องคอยรับโทรศัพท์จากงาน หรือทุ่มเทเวลาให้ครอบครัวจนแทบไม่มีเวลาของตัวเอง พอกลับมาทำงานจึงรู้สึกโหยหาการพักผ่อนมากกว่าเดิม
  2. อีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นความรู้สึกหมดไฟ คือความต่างอย่างสุดขั้วระหว่างชีวิตช่วงหยุดยาวกับชั่วโมงทำงานจริง เมื่องานประจำของเรานั้นเต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวายหรือแรงกดดันที่สะสมมาตลอด และเรากำลังหวาดหวั่นเมื่อต้องกลับไปเจอกับสิ่งเหล่านั้นอีกครั้ง

เทคนิคปลุกพลังใจให้พร้อมสู้งาน

เริ่มจากงานง่ายไปยาก

เคล็ดลับในการรีเฟรชตัวเองอาจเริ่มจากการตั้งโหมดปรับตัวส่วนตัว ด้วยการแบ่งงานเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่ทำง่ายหรือมีความถนัดเป็นพิเศษก่อน ทำทีละอย่างให้เสร็จ เพิ่มความมั่นใจทีละนิด อย่าเพิ่งโดดรับโปรเจกต์ยักษ์ เพราะอาจทำให้สภาพจิตใจที่เพิ่งกลับมาจากโหมดพักผ่อนรับมือไม่ไหวได้ง่าย

ทำสิ่งที่รัก

ขณะเดียวกัน การหาส่วนที่เราหลงรักในงานก็สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการคิดโปรเจกต์ใหม่ ประสานงานกับทีม หรือวิเคราะห์ข้อมูล มองหาเสน่ห์ที่ทำให้คุณยังคงทำงานนี้อยู่ เพื่อกระตุ้นแรงบันดาลใจให้ตัวเอง นอกจากนี้ จงเปลี่ยนมุมมองที่ว่า การทำงานหนักคือศัตรูของการพักผ่อน ความจริงแล้วทั้งสองอย่างสามารถเสริมกันได้ งานจะสร้างรายได้ให้เราได้พักผ่อนแบบที่เราต้องการ และการพักผ่อนที่เต็มอิ่มก็ทำให้เรากลับมาทำงานได้มีคุณภาพมากขึ้น

เปิดโอกาสทบทวนชีวิตตัวเอง

ท้ายที่สุด หากลองปรับตัวอยู่สักพักแต่ยังรู้สึกจิตตกไม่เลิก นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าเราไม่ได้หมดไฟเพราะหยุดยาว แต่กำลังหมดใจกับงานจริง ๆ ก็เป็นได้ ลองทบทวนว่าผลตอบแทนที่เราได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ความท้าทาย หรือบรรยากาศการทำงาน ยังคุ้มค่าอยู่ไหม อย่ารีบลาออกกะทันหัน แต่ให้เริ่มมองหาทางเลือกใหม่ควบคู่กันไป จัดลำดับความต้องการในชีวิต แล้วตัดสินใจอย่างมีสติ

เมื่อการกลับมาทำงานหลังหยุดยาวเป็นเหตุให้เราตั้งคำถามกับอนาคตของตัวเอง มันอาจเป็นโอกาสดีที่จะหาเส้นทางที่เหมาะสมกว่า เพื่อให้เราได้ทั้งทำงานและพักผ่อนอย่างมีความสุขยิ่งขึ้นในระยะยาว