CDC หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเป็นสถาบันสุขภาพแห่งชาติชั้นนำของสหรัฐอเมริกาได้เปลี่ยนแนวทางการใช้หน้ากากอนามัยใหม่ โดยบอกให้ชาวอเมริกันทุกคนใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือ Covid-19 แต่สำหรับหน้ากากชนิด N95 ยังคงขอสงวนไว้ให้กับบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น
อ้างอิงจากคำแนะนำของ CDC ระบุว่า ประชาชนทุกคนที่ออกเดินทางไปยังที่สาธารณะควรใส่หน้ากากอนามัยทุกคนไม่ว่าจะป่วยหรือไม่ป่วยก็ตาม เนื่องจากตอนนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ไม่แสดงอาการแล้ว จึงทำให้คัดกรองยากกว่าเดิม และทำให้แพร่ระบาดง่ายยิ่งขึ้นด้วย โดยหน้ากากอนามัยแบบทำเองหรือแบบผ้าก็สามารถช่วยป้องกันได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ต่อให้สวมหน้ากากอนามัยแล้วก็ยังต้องมีการเว้นระยะหว่างในแต่ละคน (social distance) และล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดด้วย
ก่อนหน้านี้องค์การทางการแพทย์ ได้แก่องค์การอนามัยโลกและ CDC กล่าวว่าใครที่ไม่ป่วยไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยก็ได้
ปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยไวรัสโคโรนาทะลุ 270,000 คน มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 7,087 คน กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสมากที่สุดในโลกไปแล้วเรียบร้อย ตามด้วยประเทศแถบยุโรปอย่าง อิตาลี สเปน และเยอรมนี
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือจีนค้นพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ไม่แสดงอาการถึง 1,600 คนในขณะนี้ ทำให้เราไม่สามารถสังเกตได้เลยว่าคนที่เดินผ่านเราไปนั้นติดเชื้อด้วยหรือไม่
อ้างอิง CNET