ท้องถนนของเมืองกัวยากิล ประเทศเอกวาดอร์ เต็มไปด้วยศพผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดเชื้อไวรัส Covid-19 เมืองที่มีประชากรราว 3 ล้านคนและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเอกวาดอร์ กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อ Covid-19 และตกอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากมีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมากจนโรงพยาบาลไม่สามารถรองรับไหว ทำให้ต้องปฏิเสธคนไข้ และญาติของผู้ป่วยบางรายก็ตัดสินใจทิ้งศพของผู้ป่วยที่เป็นญาติไว้ข้างถนน เพราะไม่สามารถนำกลับไปไว้ในบ้านที่จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในกาแพร่ระบาดต่อสมาชิกครอบครัวคนอื่นเพิ่ม
แม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่นอนในเมืองแห่งนี้ แต่มีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตในเมืองนี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล้นห้องเก็บศพและสถานที่เก็บศพต่าง ๆ หลายครอบครัวชาวบ้านต้องอยู่กับศพของสมาชิกครอบครัวที่เสียชีวิตที่บ้าน เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเก็บศพได้ทัน ผลที่ตามมาคือผู้คนเอาศพมาทิ้งตามที่ต่าง ๆ ทั่วเมือง ทั้งริมถนน อาคารร้าง และแม้แต่ใจกลางหมู่บ้าน “พวกเราต้องรอถึง 5 วันหลังจากโทรไป 911 และพวกเขาบอกแค่ว่าให้รอต่อไป” Fernando Espana ประชาชนในเมืองกัวยากิลให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอลกับสำนักข่าว Reuters เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา และได้หมุนกล้องให้นักข่าวดูศพของคนในครอบครัวที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยถุงพลาสติกสีดำภายในบ้าน และมีพัดลม 2 เครื่องเป่าระบายกลิ่นอยู่ข้าง ๆ
ศพถูกใส่ถุงดำมารวมทิ้งกันอยู่ข้างถนนในเมืองกัวยากิล ประเทศเอกวาดอร์
ศพผู้เสียชีวิตที่ถูกนำมาทิ้งไว้ข้างถนน ซึ่งก็สร้างความวิตกให้กับประชาชน
อีกภาพเหตุการณ์หนึ่งที่น่าสะเทือนใจในเหตุการณ์นี้ คือภาพของหญิงชราที่เสียชีวิตบนวีลแชร์หน้าวอร์ดของห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลระหว่างที่รอรับการรักษา เนื่องจากโรงพยาบาลไม่มีเตียงจะรองรับ และหลังเสียชีวิตไปแล้วนานถึง 4 ชั่วโมง ศพของเธอจึงถูกเก็บไปอย่างที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ยังไม่มีเวลาแม้แต่จะชันสูตรว่าเธอเสียชีวิตด้วย Covid-19 หรือไม่
รายงานข่าวของ CNN เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็เปิดเผยภาพวิดีโอที่เห็นมอเตอร์ไซนำศพมาทิ้งไว้ที่ริมถนน และไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเจ้าหน้าที่ที่สวมชุดป้องกันก็มาเก็บศพขึ้นรถเก็บศพไป อีกวิดีโอหนึ่งก็เผยให้เห็นถึงการเคลื่อนย้ายศพที่บรรจุอยู่ในถุงดำออกจากรถยนต์ของประชาชน และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เก็บศพนั้นไป ข้อมูลอย่างเป็นทางการเปิดเผยว่า ศพจำนวน 300 ศพแล้วที่ถูกเก็บจากบ้านของประชาชนภายในเมือง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่จำนวนศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดในช่วงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ยังต้องเก็บศพจากตามบ้านและท้องถนนเฉลี่ยวันละ 100 ศพ
ศพของผู้เสียชีวิตที่รอเจ้าหน้าที่มาเก็บ ซึ่งครอบครัวเอามาไว้นอกบริเวณบ้าน
กล่องกระดาษที่ถูกนำมาใช้เป็นโลงศพในช่วงที่โรงงานผลิตโลงศพหยุดชะงัก
อีกปัญหาหนึ่งที่ชาวเมืองต้องเผชิญ คือโลงศพไม่พอกับจำนวนผู้เสียชีวิต ส่วนหนึ่งเพราะการประกาศเคอร์ฟิว ทำให้กิจการผลิตโลงศพต้องหยุดชะงัก ประชาชนจึงต้องแก้ปัญหาด้วยการนำลังกระดาษขนาดใหญ่มาใช้บรรจุศพแทน อย่างไรก็ตาม Lenin Moreno ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ได้ออกมาขอโทษประชาชน และบอกว่าจะรีบแก้วิกฤตนี้ให้เร็วที่สุด