บทความแปลจากเว็บไซต์ South China Morning Post
สิ่งที่ยังคงเป็นคำถามสำหรับใครหลาย ๆ คนคือ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Covid-19 นั้นมีแหล่งที่มาจากที่ไหน บ้างก็ว่าค้างคาว บ้างก็ว่าเป็นอาวุธชีวภาพที่ถูกพัฒนาอย่างลับ ๆ ในห้องแล็บ ถ้าเราแบ่งกลุ่มของ “ที่มา” ที่หลายคนอ้างกันก็แบ่งได้สองกลุ่มใหญ่ ๆ คือ “ความจริงที่อ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์” กับ “ผม/ฉัน ว่ามันเป็นแบบนี้” โดยไม่สนใจว่าความจริงคืออะไร
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
อ้างอิงข้อมูลจากห้องวิจัยพบว่า จากการตรวจสอบความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือ Sars-CoV-2 นั้นพบว่า Covid-19 นั้นมีความเกี่ยวโยงกับค้างคาวเกือกม้า หรือ horseshoe bat ซึ่งพบในทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน
ที่ผ่านมาเราทราบกันอยู่แล้วว่าเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคนั้นผ่านมือสัตว์ชนิดอื่นมาก่อน ทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าไวรัสเหล่านั้นเกิดการกลายพันธุ์หรือรวมกับไวรัสชนิดอื่น ๆ มาก่อน ก่อนที่จะเริ่มแพร่เข้าสู่ร่างกายของมนุษย์
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่ได้หยุดเพียงแค่ค้างคาวเกือกม้าเท่านั้น The Washington Post ได้นำทฤษฎีเรื่องการพัฒนาเชื้อในห้องแล็บกลับมาเผยแพร่อีกครั้ง ความเป็นไปได้อีกหนึ่งอย่างคือนักวิทยาศาสตร์หรือนักวิจัยจากศูนย์ควบคุมโรคใกล้ ๆ กับตลาดสดในอู่ฮั่นอาจเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสจากห้องแล็บเสียเอง
Vincent Racaniello ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยาที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์กกล่าวว่า “หากใครบางคนมีเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่ในห้องแล็บ และพบว่ามันดันหลุดรอดออกไปเองได้นั้น ไม่มีทางที่มันจะติดเชื้อในคนได้ โดยไวรัสจากค้างคาวจะต้องได้รับการพัฒนาหรือกลายพันธุ์เป็นเวลานานหลายปีจึงจะติดคนได้
ทั้งนี้กลุ่มนักวิจัยรวมถึงนักวิจัยจากอู่ฮั่นพบว่าจีโนมของไวรัสจากค้างคาวและ Sars-CoV-2 นั้นมีความคล้ายคลึงกันถึง 96% แต่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มี Spike Protein หรือปุ่มยื่นออกมาจากชั้น envelope (ชั้นที่หุ้มตัวไวรัสไว้) แตกต่างจาก Sars-CoV-2 ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อในมนุษย์นั่นเอง แต่ประเด็นคือขาที่ว่านี่ดันไม่เหมือนไวรัสที่พบในค้างคาว
จริง ๆ มีทฤษฎีที่ว่า อาจ “เป็นการปล่อยไวรัสออกไปโดยไม่ตั้งใจ” ในแวดวงการวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม เหตุผลนี้ไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะสามารถสรุปได้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดไปนั้นเกิดจากการทดลองไวรัสในห้องแล็บแล้วพลาดหลุดออกไปได้
ความเป็นไปได้ในตอนนี้คือจุดเริ่มต้นมาจากสัตว์ที่ถูกขายในตลาดสดอู่ฮั่นซึ่งในปี 2003 นั้นตลาดสดก็เป็นแหล่งแพร่ระบาดของ SARS ซึ่งเกิดจากการที่ไวรัสจากค้างคาวไปติดกับแมวชะมด แล้วจึงติดกับมนุษย์ต่อนั่นเอง
Andrew Cunningham รองผู้อำนวยการวิทยาศาสตร์ของสมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอนกล่าวว่า “ตลาดสดอู่ฮั่นที่แออัดในประเทศจีนเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการติดเชื้อไวรัสประเภทนี้เป็นอย่างยิ่ง” ตลาดสดแบบเปิดจะทำให้ไวรัสเกิดการข้ามจากสัตว์ชนิดหนึ่งสู่สัตว์ชนิดหนึ่งได้ง่าย ระหว่างนี้เองทำให้ไวรัสเกิดการกลายพันธุ์หรือรวมกับไวรัสชนิดอื่นขึ้นมา ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ขาของ Sars-CoV-2 แตกต่างขาไวรัสของค้างคาว แต่การที่ไวรัสจากสัตว์ที่ติดกันไปมาแล้วกระโดดไปสู่คนจนเกิดการแพร่ระบาดเลยนั้นเป็นไปได้ค่อนข้างยาก เหตุการณ์ที่เป็นไปได้คือ เกิดการวนของไวรัสในหมู่สัตว์ และคน จนเกิดการกลายพันธุ์และแพร่กระจายต่อนั่นเอง
Gavin Smith ศาสตราจารย์ด้านโรคติดเชื้อที่โรงเรียนแพทย์ Duke-NUS สิงคโปร์กล่าวว่า ยิ่งการแพร่ระบาดจากสัตว์สู่คน แล้วคนติดคนมากขึ้นเท่าไหร่ ไวรัสยิ่งเกิดการพัฒนาได้มากขึ้นเท่านั้น อีกความเป็นไปได้คือชาวไร่ที่เก็บ “ขี้ค้างคาว” มาทำปุ๋ย อาจเป็นการสัมผัสกับไวรัสโดยตรงจนทำให้เกิดการติดเชื้อเลยก็เป็นได้
เนื้อหาต่อไปนี้มีการสปอยล์หนัง Contagion
.
.
.
.
.
.
.
หากใครดูตอนจบของภาพยนตร์ Contagion ผู้จัดทำได้ใส่ความเป็นไปได้ของการติดเชื้อคือการที่ค้างคาวขี้ในเล้าหมู หมูกินอาหารเข้าไป สุดท้ายมาติดที่คนต่อ ความเป็นไปได้ในตอนนี้ก็คือเกิดจากค้างคาวแล้วเชื้อมีการพัฒนาไปต่อนั่นเองครับ
อ้างอิง SCMP
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส