เสาร์ที่ 11 เมษายน Chung Sye-kyun นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้กล่าวว่ารัฐบาลได้ฟังผู้เชี่ยวชาญด้านการกักตัวและรวบรวมความคิดเห็นจากชุมชนต่าง ๆ จึงตัดสินใจจะให้ผู้ที่ฝ่าฝืนการกักตัวใส่ริสต์แบนด์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากไม่กี่สัปดาห์มานี้มีผู้ที่ถูกสั่งให้กักตัวหลายรายละเมิดการกักตัวเอง เช่น ออกไปข้างนอกโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่รับสายโทรศัพท์ ซึ่งมาตรการนี้มีไว้เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ดีขึ้น
หน่วยงานด้านสุขภาพเปิดเผยว่าได้วางแผนการเริ่มใช้ริสต์แบนด์ภายในสองสัปดาห์ แต่จะขออนุญาตจากผู้ฝ่าฝืนก่อนที่จะใส่อุปกรณ์เข้ากับข้อมือได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายที่จะบังคับให้ผู้คนสวมใส่อุปกรณ์ดังกล่าว ขณะนี้ได้ทดสอบริสต์แบนด์เรียบร้อยแล้วและจะสามารถผลิตได้ 4,000 ชิ้นต่อวัน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลี (KCDC) เปิดเผยว่าหากผู้ที่ถูกสั่งให้กักตัวฝ่าฝืน เช่น ออกไปข้างนอกโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่ยอมตรวจสุขภาพ ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและถูกขอให้ใส่ริสต์แบนด์ หรือเรียกว่า “เซฟแบนด์” ในช่วงเวลากักตัวที่เหลือ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือ และอุปกรณ์จะเชื่อมเข้ากับแอปพลิเคชันบนมือถือของผู้ที่กักตัวซึ่งเป็นแอปของรัฐบาล ถ้าหากเขาทำอุปกรณ์เสียหาย ระบบก็จะแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานด้านสุขภาพโดยอัตโนมัติ
เมื่อเร็ว ๆ นี้กระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวได้ทำการสำรวจแนวคิดในการใช้ริสต์แบนด์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามผู้ที่ถูกกักตัวจำนวน 1,000 คนทั่วประเทศ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนถึง 80.2% อย่างไรก็ตามมาตรการนี้ก็ยังถือว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่ดี แต่เมื่อดูสถิติในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีผู้ถูกสั่งให้กักตัวกว่า 54,000 คน และพบว่ามีมากกว่า 160 คนที่ฝ่าฝืนกฏการกักตัว
ที่มา : Yonhap
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส