ร้านค้าและห้างสรรพสินค้าในจีนเริ่มกลับมาเปิดตามปกติอีกครั้งตามมาตรการของรัฐบาลเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ดูเหมือนว่าความกลัวในไวรัสโคโรนาจะยังไม่จางลง เมื่อผู้คนมาเดินห้างกันน้อยจนน่ากลัว
เจ้าหน้าที่ Walmart ในชานเมืองเซี่ยงไฮ้เผยกับสื่อว่า ลูกค้ามาเดินชอปปิ้งกันน้อยลงกว่าเดิมมาก เรียกว่าจำนวนน้อยกว่าครึ่งของปกติที่มาเดินกันเสียอีก โดยชั้นวางผักและวัตถุดิบต่าง ๆ มีสต็อกสินค้าเอาไว้พร้อม แต่จำนวนคนที่มาเดินน้อยมาก ๆ แม้เป็นช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ ถึงแม้การซื้อขายรูปแบบออนไลน์ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Suning บอกว่ามีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพียงครึ่งเดียว แน่นอนว่าร้านในเครือระดับที่หรูหราและไฮเอนด์กว่านี้ก็ยังไม่มีวี่แววจะกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง
กระทรวงพาณิชย์ของประเทศจีนระบุว่าประมาณ 80% ของร้านอาหารและร้านค้ากว่า 90% กลับมาดำเนินธุรกิจตามปกติแล้ว แต่ถึงแม้ว่าร้านค้าจะกลับบริการตามปกติแต่ดูเหมือนว่าผู้คนจะยังไม่อยากเดินสักเท่าไหร่นัก
คำถามที่น่าสนใจคือทำไมคนถึงยังไม่กลับมาเดินตามกันปกติ?
หลังจากทำงานเสร็จผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านเลย ไม่แวะกินข้าวหรือซื้อของข้างนอก
ความเห็นจากประชาชนชาวจีนอายุ 32 ปีที่ยังอาศัยการซื้อของชำแบบออนไลน์ นอกจากยังมีความหวาดกลัวเรื่องไวรัสที่อาจยังอยู่ในสังคมแล้ว ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่พังลงก็เลวร้ายไม่แพ้กัน จากการสำรวจพบว่าประชาชนยังอยู่ใน “in money-saving mode” หรือโหมดประหยัดเงิน
พนักงานร้านขายของชำในเซี่ยงไฮ้บอกว่า แม้ว่าจะมีคนมาเดินซื้อของ แต่ผู้คนก็เลือกซื้อแค่ของที่ลดราคาเท่านั้น
60% ของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในเมืองจีนมียอดขายที่ลดลงราว 30-70% ในไตรมาสแรกของปี 2020 แต่หากดูตัวเลขการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ก็ยังพอคงตัวและอาจมีการเติบโตบ้าง
อ้างอิง Nikkei
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส