พลเอกประยุทธิ์ จันทร์โอชา นากยกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา และได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2563 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ Covid-19 ต่อไป

วันที่ 1 พฤษภาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 5 โดยมีข้อห้ามดังต่อไปนี้

  1. ห้ามออกจากเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00 – 04.00 น.
  2. การห้าม หรือข้อจำกัดการดำเนินการ หรือกิจกรรมบางอย่างตามพระราชกำหนดและกฏหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ห้ามใช้อาคาร สถานที่ หรือโรงเรียนในการจัดเตรียมสอบ อบรม, ห้ามการประชุม สมนา การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของ เว้นแต่เจ้าหน้าที่หรือจะได้รับอนุญาตแล้ว และต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างน้อยหนึ่งเมตร, ห้ามใช้ท่าอากาศยานสำหรับการขึ้น-ลง เป็นต้น
  3. คำสั่งตามข้อ 2 ถือว่าเป็นคำสั่งตามข้อกำหนดที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ด้วย
  4. การปฏิบัติศาสนกิจ, พิธีทางศาสนา และประเพณีนิยม ณ​ ศาสนสถานใดให้เป็นไปตามดุลยพินิจและอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ปกครองดูแลศาสนสถานนั้น
  5. ให้ประชาชน งด หรือ ชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่เขตจังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็นต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ ต้องได้รับการตรวจคัดกรอง และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด

มาตรการดังกล่าวจะถูกบังคับใช้ในวันที่ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป สำหรับใครที่มีความจำเป็นต้องเดินทางข้ามจังหวัดก็อย่าลืมปฏิบัติตามข้อที่ 5 ด้วยนะครับ

อ้างอิง ประชาชาติธุรกิจ, มติชน

 

 

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส