หลังจากที่สหรัฐฯ มีผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ในจำนวน 150,000 คนมาได้ 2 เดือน ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กันยายนได้มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มมาจนถึง 200,284 คน รัฐที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดก็ยังคงเป็นนิวยอร์กที่จำนวนกว่า 33,000 คน และยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วโลกยังน่าเป็นห่วงเพราะมีมากถึง 974,545 คน
ปัจจุบันประชากรโลกมีจำนวน 7,594 ล้านคน ได้ติดเชื้อ COVID-19 แล้วจำนวน 31,763,418 คน ซึ่งประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐฯ ที่จำนวนกว่า 7 ล้านคน ในขณะที่มีประชากร 332 ล้านคนเป็นอันดับ 3 ของโลก
COVID-19 ยังคงระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ซึ่งอินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับสองที่ 5,640,496 คน ตามมาด้วยอันดับ 3 บราซิลที่จำนวน 4,595,335 คน และรัสเซียอันดับ 4 ที่ 1,115,810 คน
จากสถิติวันที่ 23 กันยายน เวลา 00:23 GMT ประเทศที่น่าเป็นห่วงด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ ก็คือ อินเดียที่จำนวน 80,391 คน รองลงมาก็คือบราซิลที่ 35,252 คน, สหรัฐฯ ที่ 35,144 คน, อาร์เจนตินาที่ 12,027 คน, สเปนที่ 10,799 คน และฝรั่งเศสที่ 10,008 คน
31 สิงหาคม สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NIH) ได้ออกมาประกาศว่าวัคซีนป้องกัน COVID-19 กำลังเริ่มการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 กับอาสาสมัครผู้ใหญ่ประมาณ 30,000 คน ต่อมา 16 กันยายน กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐอเมริกา (HHS) เผยว่าสหรัฐฯ มีแผนจะเริ่มกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพทันทีหลังจากได้รับการอนุมัติจาก อ.ย. ของสหรัฐฯ (FDA) มากกว่า 100 ล้านโดสภายในเดือนมกราคม 2021
เมื่อ 11 กันยายน Dr. Anthony Fauci ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) เผยว่าวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาจะมีพร้อมใช้ในต้นปีหน้า ซึ่งคนอเมริกันจะกลับมาใช้ชีวิตปกติสุขได้ในปลายปี 2021 หลังจากที่วัคซีนได้กระจายไปสู่ประชากรทั้งหมดในสหรัฐฯ แม้ว่าหลังจากนั้นฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลจะพยายามให้วัคซีนออกมาก่อนวันเลือกตั้ง 3 พ.ย. เพื่อหวังสร้างเครดิตเอาใจชาวอเมริกัน แต่ก็คงไม่สามารถผ่านด่านที่เข้มงวดของ อ.ย. สหรัฐฯ ไปได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส