เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมระบบ (Center for Systems Science and Engineering หรือ CSSE) ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ (Johns Hopkins University) ได้รายงานข้อมูลว่า ประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 มากกว่า 9 ล้านรายแล้ว
รายงานดังกล่าวระบุว่า ประเทศสหรัฐอเมริกามีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวน 9,007,298 ราย ซึ่งคิดเป็น 20% ของจำนวนผู้ป่วยทั่วโลก และมีจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 229,293 ราย โดยนับถึงเวลา 15.24 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้มีรายงานว่า รัฐที่มีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดคือ แคลิฟอร์เนีย โดยมีจำนวนผู้ป่วยทั้งสิ้น 925,509 ราย ตามมาด้วยเท็กซัส และฟลอริดา ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยอยู่ที่ 919,661 ราย และ 799,738 ราย ตามลำดับ ส่วนนครนิวยอร์กนั้น มีรายงานยืนยันว่ามีจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 500,000 ราย แล้วในขณะนี้
สำหรับรัฐอื่น ๆ อย่าง อิลลินอยส์, จอร์เจีย, นอร์ทแคโรไลนา, เทนเนสซี, แอริโซนา, นิวเจอร์ซีย์, วิสคอนซิน, โอไฮโอ และเพนซิลเวเนีย นั้น ต่างก็มีจำนวนผู้ป่วยมากกว่า 200,000 ราย
ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 ถึงหลัก 5 ล้านคน เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2020, 6 ล้านคน เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2020, 7 ล้านคน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2020 และ 8 ล้านคน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2020 ซึ่งถือได้ว่าเป็นประเทศที่จำนวนผู้ป่วยต่อวันเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของโลกในขณะนี้
สก็อตต์ ก็อตต์ลีบ (Scott Gottlieb) อดีตผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยอาจเพิ่มขึ้นสูงกว่า 100,000 คนต่อวัน ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ และกังวลว่าเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าที่ครอบครัวต่าง ๆ จะเดินทางมาฉลองร่วมกัน จะยิ่งทำให้เกิดการแพร่เชื้อในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง : xinhuanet
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส