จากการแถลงการณ์ทางออนไลน์ของบริษัท BioTech เมื่อวันพุธที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ผลการการทดลองคลินิกในระยะที่ 3 พบว่าวัคซีนไซเฟอร์มีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกัน Covid-19 ในเด็กอายุ 12-15 ปี
การทดลองคลินิกในระยะที่ 3 เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาโดยทดลองในเด็กอายุ 12-15 ปี จำนวน 2,260 คน โดยแบ่งผู้ทดลองเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ได้รับวัคซีนและกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ในช่วงของทดลองมีผู้ป่วยติดเชื้อ Covid-19 จำนวน 18 ราย ในกลุ่มที่ได้รับยาหลอกและไม่พบผู้ติดเชื้อในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน ซึ่งบริษัทรายงานว่า หลังจากได้รับวัคซีนครบเป็นเวลาหนึ่งเดือนปริมาณแอนติบอดี้ในเด็กมีปริมาณมากกว่าในกลุ่มผู้เข้าร่วมอายุ 16-25 ปี ยิ่งไปกว่านั้นวัคซีนยังมีประสิทธิภาพและพบผลข้างเคียงโดยทั่วไปสอดคล้องกับผู้เข้าร่วมอายุ 16-25 ปี
อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะได้รับการตรวจสอบต่อเป็นเวลา 2 ปีหลังจากได้รับวัคซีนครั้งที่ 2 เพื่อให้นักวิจัยวิเคราะห์ประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว
อัลเบิร์ต บัวรา (Albert Bourla) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BioNTech กล่าวในแถลงการณ์ว่า “การค้นพบนี้ยังต้องได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ” อูกร์ ซาฮิน (Ugur Sahin) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง BioNTech กล่าวว่า “พวกเราอยากให้ผู้คนทั่วโลกได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ผลลัพธ์เบื้องต้นที่เราได้เห็นจากการศึกษาในวัยรุ่นชี้ให้เห็นว่าวัคซีนในเด็กมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องดี
โดยทางบริษัทวางแผนที่จะส่งข้อมูลไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) และ European Medicines Agency (EMA) โดยเร็วที่สุด เพื่อขยายการอนุญาตกรณีฉุกเฉินให้มีใช้ในวัคซีนในเด็ก โดยหวังว่าเด็ก ๆ จะได้รับวัคซีนก่อนการเปิดภาคเรียนเทอมหน้า
ปัจจุบันวัคซีน Pfizer-BioNTech ได้รับการอนุมัติฉุกเฉินสำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และวัคซีนจากอีก 2 บริษัทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา อย่าง Moderna และ Johnson ได้รับการอนุมัติฉุกเฉินสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่เพียงเท่านั้น Moderna กําลังทดสอบวัคซีนในเด็กโตอายุ 12 ถึง 17 ปี ทั้ง Moderna และ Pfizer ได้เริ่มการทดลองทางคลินิกเพื่อทดสอบวัคซีนในเด็กเล็กและทารก ส่วน Johnson & Johnson ก็มีแผนที่จะทดสอบวัคซีนในเด็กและทารกเช่นเดียวกัน
อ้างอิง Livescience
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส