เมื่อวันที่ 29 เมษายน สำนักข่าวซินหัวเผยภาพสถานที่เผาศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบกลางแจ้งขนาดใหญ่ บริเวณฌาปนสถานในนครเดลีของอินเดีย ขณะที่สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ในเดลีต้องเร่งหาสถานที่สำหรับเผาศพมากขึ้น เนื่องจากห้องเก็บศพและเมรุของเมืองมีผู้เสียชีวิตจากโควิดจำนวนมาก
การแพร่ระบาดไวรัสในอินเดียครั้งนี้ นับเป็นระลอกที่ส 2 โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (30เม.ย.64) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ถึง 386,452 รายในอินเดีย นับเป็นจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในหนึ่งวัน เมื่อเทียบกับทุกประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน มีผู้เสียชีวิตอีก 3,500 รายทั่วประเทศ และเกือบ 400 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในเดลี ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศอินเดียทะลุ 18 ล้านคนแล้ว
ในวันเดียวกันนี้ มีสหรัฐอเมริกาได้ส่งมอบเวชภัณฑ์ฉุกเฉินไปถึงอินเดียเป็นลอตแรก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนช่วยเหลือมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ที่รัฐบาลสหรัฐ ฯ เคยระบุไว้
อย่างไรก็ตาม อินเดียยังคงขาดแคลนอุปกรณ์ให้ออกซิเจนและเตียงในโรงพยาบาลอย่างหนัก โดยญาติของผู้ป่วยโควิดจำนวนมากต่างวิงวอนขอความช่วยเหลือในโซเชียลมีเดีย
เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสของเดลีคนหนึ่งกล่าวว่า ประชาชนต้องเผาศพสมาชิกในครอบครัวในเมรุที่ไม่ได้ถูกกำหนดให้รับเหยื่อจากโควิด -19 “นั่นเป็นเหตุผลที่เราแนะนำให้ตั้งเมรุมากขึ้น”
จากวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่งผลให้รัฐบาลกลางของอินเดียเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเกี่ยวกับการจัดการกับการระบาดของโรค รวมถึงจากการตัดสินใจที่อนุญาตให้มีการชุมนุมเลือกตั้งใหญ่ และเทศกาลทางศาสนาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข้อความแสดงความไม่พอใจมากมายเกิดขึ้นในทวิตเตอร์ ซึ่งบางส่วนได้รับการร้องขอให้ลบออกไป
ล่าสุด ศาลสูงสุดของอินเดียได้ออกมาปกป้องสิทธิของประชาชนในการแสดงความคับข้องใจและอุทธรณ์เพื่อขอความช่วยเหลือบนโซเชียลมีเดียในช่วงวิกฤตไวรัสโคโรนา โดยระบุว่า หากทางการยังยับยั้งผู้คนไม่ให้แสดงออกดังกล่าวจะถือว่าเป็นการดูหมิ่นศาล
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาปกป้องรัฐบาลโดยกล่าวว่า อัตราการเสียชีวิตของอินเดียนั้นต่ำที่สุดในโลกและมีปริมาณเครื่องให้ออกซิเจน ‘เพียงพอ’
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส