สหภาพยุโรป (European Union: EU) ประกาศเพิ่มผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca อีกหนึ่งอย่าง พร้อมทั้งกำลังศึกษาเคสของผู้ที่เกิดอาการหัวใจอักเสบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 (รวมถึงวัคซีนจากบริษัทอื่น ๆ ด้วย ไม่ใช่เฉพาะ AstraZeneca)
คณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยของอย.ยุโรป (The European Medicines Agency: EMA) กล่าวว่า ผู้ที่เคยเกิดอาการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด (Capilary Leak syndrome: CLS) จะต้องถูกเพิ่มในรายการผลข้างเคียงของวัคซีนโควิด-19 จาก AstraZeneca โดยหากใครที่เคยมีอาการของเหลวไหลออกจากเส้นเลือดจนเกิดการบวมและความดันตกไม่ควรรับการฉีดวัคซีน
ทาง อย.ยุโปรเริ่มต้นศึกษาเคสดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายน และออกมาประกาศแนะนำให้เพิ่มผลข้างเคียงดังกล่าว เพราะในกรณีที่หายากมาก ๆ การได้รับวัคซีนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง มีการอุดตันของเลือด รวมทั้งเกล็ดเลือดต่ำ
คณะกรรมการพบว่า ในผู้ได้รับวัคซีนของ AstraZeneca มีจำนวน 6 รายที่เกิดอาการ CLS (เกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง) และเข้ารับการฉีดวัคซีนของ AstraZeneca พบว่า 3 รายเกิดอาการผลข้างเคียงรุนแรง และมีหนึ่งรายที่เสียชีวิต
ปัจจุบันวัคซีนจำนวน 78 ล้านโดสถูกแจกจ่ายให้กับสหภาพยุโรป ลิกเตนสไตน์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และอังกฤษ โดยพบว่า มีโอกาสที่จะเกิดอาการ CLS อยู่ที่ 1 ใน 10 ล้านเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของอังกฤษ (Medicines and Healthcare products Regulatory Agency: MHRA) ระบุว่า ทางหน่วยงานรับทราบถึงคำแนะนำเกี่ยวกับผู้ที่เคยเกิดอาการ CLS แต่ทางหน่วยงานยังไม่พบความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน
2 ใน 8 รายของผู้ที่เกิดอาการของเหลวรั่วออกมานอกเส้นเลือดหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของ AstraZeneca พบว่า เคยมีประวัติของอาการ CLS มาก่อน โดยในตอนนี้มีการฉีดวัคซีน AstraZeneca ไปแล้ว 40 ล้านโดสในสหราชอาณาจักร
นอกจากอาการของเหลวรั่วจากเส้นเลือดหลังได้รับวัคซีน AstraZeneca แล้ว ยังมีเคสของผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิดอื่น ๆ ที่เกิดอาการหัวใจอักเสบในชายหนุ่มหลังจากได้รับวัคซีน mRNA ครั้งที่ 2 โดยในตอนนี้ยังไม่มีใครทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาการที่เกิดขึ้นกับการได้รับวัคซีน mRNA
อ้างอิง: Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส