“It’s crazy, really crazy. More patients but less staff. This is ridiculous.” (มันบ้ามาก บ้าจริง ๆ ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแต่พนักงานน้อยลง นี่มันช่างน่าตลก) นี่คือประโยคที่แพทย์ทางเดินหายใจให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Reuters อย่างฉุนเฉียว หลังจากที่พนักงานสาธารณสุขอินโดนีเซียในโรงพยาบาลลดลงประมาณ 200 คน จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
ที่ประเทศอินโดนีเซีย พนักงานสาธารณสุขประมาณ 95% ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน โดยส่วนมากได้รับวัคซีนโควิด-19 ของ Sinovac ซึ่งข้อมูลจากกลุ่ม Lapor COVID-19 เผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 131 คน ซึ่งส่วนมากได้รับวัคซีน Sinovac ได้เสียชีวิตในเดือนมิถุนายน และมีอีก 50 รายที่เสียชีวิตในเดือนกรกฎาคม
ปัญหาการขาดแคลนพนักงานสาธารณสุขทำให้โรงพยาบาลเริ่มรับสมัครอาสาสมัครที่มีอาชีพเป็นเภสัชกร นักรังสีวิทยา และนักศึกษาแพทย์
หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มมีข้อกังขาเกี่ยวกับประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 จาก Sinovac โดยรัฐบาลได้ออกมาโต้แย้งประเด็นนี้ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากวัคซีน Sinovac แต่เป็นเพราะไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดลตาต่างหาก
เลขาธิการสมาคมโรงพยาบาลชาวอินโดนีเซีย (Indonesian Hospitals Association: IHA) ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจในหมู่โรงพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่ทั่วเมืองใหญ่ในเกาะชวา และกล่าวว่า “พวกเขาบอกว่า พนักงานจำนวน 10% มีผลการทดสอบโควิด-19 เป็นบวก”
ล่าสุดอินโดนีเซียมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 34,379 ราย ซึ่งเพิ่มสูงกว่าเดือนที่แล้วถึงเกือบ 5 เท่า! หลายโรงพยาบาลไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้ และบางโรงพยาบาลก็มีผู้ป่วยเกินกว่าจำนวนที่สามารถรับไหว สถานการณ์การระบาดที่รุนแรงดังกล่าวทำให้ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า อินโดนีเซียอาจจะเกิดการระบาดรุนแรงเช่นเดียวกับอินเดียได้ในอนาคต
อ้างอิง: Reuters
ภาพหน้าปก: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส