ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ The Lancet เผยว่า การระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดโรควิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงและคนหนุ่มสาว
วัยรุ่นต้องทนทรมาณกับสถานการณ์ที่โรงเรียนถูกปิด ทำให้ไม่เจอเพื่อนฝูง ในขณะที่ผู้หญิงจำนวนมากพบว่าตัวเองแบกรับภาระงานบ้านอย่างหนักและต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความรุนแรงในครอบครัว
การศึกษาดังกล่าวนำโดยนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นพบเคสผู้ที่เกิดโรควิตกกังวลเพิ่มขึ้น 76 ล้านเคส และผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าอีก 53 ล้านเคสในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปี 2020
ด้วยเหตุผลที่น่าเศร้าใจหลายประการ ผู้หญิงมักจะได้รับผลกระทบที่เลวร้ายจากผลกระทบจากสังคมและเศรษฐกิจซึ่งมาจากการแพร่ระบาด การดูแลและความรับผิดชอบในครัวเรือนมักตกอยู่กับผู้หญิง และผู้หญิงก็มักตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเพิ่มมากขึ้นในสถานการณ์การแพร่ระบาด ส่วนการปิดโรงเรียนก็ส่งผลต่อการเรียนรู้เรื่องปฏิสัมพันธ์ของวัยรุ่นต่อเพื่อนฝูง
งานวิจัยนี้ได้รวบรวมตัวอย่างการศึกษาก่อนหน้าถึง 48 ชิ้นทั่วโลก และนำมารวมกันเป็นการวิเคราะห์ภาพรวมเกี่ยวกับความผิดปกติของสุขภาพจิตจาก 204 ประเทศและดินแดนในปี 2020 ทำให้งานชิ้นนี้เป็นการศึกษาระดับโลกชิ้นแรกที่เจาะประเด็นของโรคซึมเศร้าและความวิตกกังวลในช่วงการระบาด
ทีมวิจัยค้นพบว่า มีผู้ป่วยโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงเพิ่มขึ้นถึง 28% เป็น 246 ล้านเคส จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 193 ล้านเคสก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาด
ส่วนโรควิตกกังวลก็เพิ่มขึ้นถึง 26% จากการคาดการณ์เช่นกัน โดยคาดการณ์ว่ามีเคสผู้ป่วยโรควิตกกังวลประมาณ 374 ล้านราย จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 298 ล้านรายก่อนเกิดการแพร่ระบาด
อย่างไรก็ตามคุณภาพของข้อมูลจากกลุ่มประเทศรายได้ต่ำ/กลุ่มประเทศที่ยังไม่พัฒนานั้นค่อนข้างต่ำ ดังนั้นจึงอาจส่งผลให้การคาดการณ์มีความคาดเคลื่อน
อ้างอิง: Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส