การทดสอบวัคซีน Pfizer/BionTech กับกลุ่มเด็กอายุ 5 ถึง 11 ปี เผยประสิทธิผลในการป้องกันไวรัสโคโรนาสูงถึง 90.7%
เอกสารที่ Pfizer ส่งให้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (U.S. Food and Drud Administration) พบว่า พบเชื้อโควิด-19 ในเด็กจำนวน 16 รายที่ได้รับยาหลอก (placebo) เปรียบเทียบกับเด็กที่ได้รับวัคซีนของจริงที่พบผู้ติดเชื้อจำนวน 3 ราย จากผู้เข้าร่วมการทดสอบจำนวน 2,268 ราย ซึ่งกว่า 2 ใน 3 ได้รับวัคซีนของจริง
ที่จริงแล้วการทดลองดังกล่าวไม่ใช่การศึกษาว่าวัคซีนมีประสิทธิผลเท่าใด แต่เป็นการเปรียบเทียบภูมิคุ้มกันของเด็กที่ได้รับวัคซีน Pfizer เทียบกับผู้ใหญ่ในช่วงวัยอื่น ๆ โดยบริษัทระบุว่า วัคซีนโควิด-19 ของ Pfizer สามารถกระตุ้นการตอบสนองภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งในเด็กได้จากการให้วัคซีนปริมาณ 10 ไมโครกรัมต่อโดส หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของปริมาณวัคซีนที่ฉีดให้กับกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป
ในส่วนความปลอดภัยของวัคซีน การทดสอบนี้ไม่พบผลข้างเคียงที่น่าเป็นห่วงใด ๆ หลังจากการฉีดวัคซีนให้อาสาสมัคร ซึ่งเป็นผลข้างเคียงระดับเดียวกับที่พบในกลุ่มคนอายุ 16 ถึง 25 ปี
อย่างไรก็ตามวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna นั้นถูกเชื่อมโยงกับอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่มีโอกาสพบได้น้อยมากในผู้ได้รับวัคซีน ซึ่งส่วนมากจะพบในเด็กผู้ชาย
Pfizer ระบุว่า โอการในการเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนอายุ 5 ถึง 11 ปี นั้นต่ำกว่ากลุ่มที่มีอายุ 12 ถึง 15 ปี และระบุว่า โอกาสที่ผู้ป่วยโควิด-19 จะมีอาการรุนแรงจนต้องส่งเข้าโรงพยาบาลนั้นมีมากกว่าโอกาสที่จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอีกด้วย
อ้างอิง: Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส