นักวิทยาศาสตร์จากแอฟริกาใต้ยังไม่พบสัญญาณว่า ‘โอไมครอน’ จะทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการป่วยอาการสาหัสเพิ่มขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศแผนการเริ่มต้นการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังยอดผู้ติดเชื้อรายวันใกล้ทำสถิติสูงสุดใหม่
แอฟริกาใต้ออกมาประกาศการค้นพบสายพันธุ์โอไมครอนเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน เพื่อเตือนทั่วโลกให้ระวังสายพันธุ์ใหม่อาจทำให้ผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น
ข้อมูลจากโรงพยาบาลในแอฟริกาใต้ที่มีผู้ป่วยโควิด-19 เผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยอดผู้เสียชีวิตกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมายนัก และค่าเฉลี่ยในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลยังคงไม่เพิ่มขึ้นจากเดิม อย่างไรก็ตามจากข้อมูลในปัจจุบันยังไม่สามารถให้ข้อสรุปที่ชัดเจนได้ และต้องใช้เวลามากกว่านี้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วแอฟริกาใต้นั้นมีจำนวนประมาณ 20,000 รายต่อวัน ในขณะที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 20 ราย ยังคงต่ำกว่าสถิติสูงสุดที่เคยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 26,000 รายต่อวันในการแพร่ระบาดระลอกที่ 3 จากสายพันธุ์เดลตา
ปัจจุบันมีประชากรชาวแอฟริกาใต้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสอยู่ที่ 38% มากกว่าประเทศอื่น ๆ ในทวีปแอฟริกา แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายสิ้นปีที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าเอาไว้
รองอธิบดีกรมอนามัยของแอฟริกาใต้กล่าวว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นของ Pfizer จะฉีดให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 มาแล้วเกิน 6 เดือน โดยจะเริ่มฉีดเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนกลุ่มแรกในปลายเดือนธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตามการศึกษาจากแอฟริกาใต้พบว่า สายพันธุ์โอไมครอนสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันของผู้ได้รับวัคซีน Pfizer เข็ม 2 ได้บางส่วน แต่ Pfizer และ BioNTech ก็ได้ออกมาบอกว่า หากได้รับวัคซีน 3 เข็มจะสามารถต่อต้านโอไมครอนได้
เราสังเกตว่า วัคซีนยังคงประสิทธิภาพอยู่ มันอาจจะลดลงเล็กน้อย แต่เราเห็นประสิทธิภาพจากผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และนั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
เกลนดา เกรย์ (Glenda Gray) ประธานสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งแอฟริกาใต้
อ้างอิง: Reuters
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส