“เดินตามความฝัน”
เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินประโยคนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เข้าสู่วัยทำงานหรือกำลังมองหาแรงบันดาลใจในการเดินออกนอกคอมฟอร์ตโซนของชีวิต ช่างเป็นคำกล่าวที่ทำให้รู้สึกฮึกเหิม ฟังแล้วหัวใจพองโต อยากทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งออกไปตามหาสิ่งที่มีความหมายต่อชีวิต แต่พอกลับมาคิดให้ดีอีกทีหนึ่งก็เกิดคำถามว่า “แล้วต้องทำยังไงต่อล่ะ?”
มาร์ค แรนโดล์ฟ (Mark Randolph) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอคนแรกของ Netflix ก็คิดเช่นเดียวกัน ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา แรนโดล์ฟได้ผ่านการทำงานมาหลายรูปแบบ ทั้งเป็นพนักงานบริษัท ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซีอีโอ บอร์ดบริหาร จนภายหลังมาเป็นที่ปรึกษาและนักลงทุนด้วย ในงานจบการศึกษาที่ Cape Cod Community College ปี 2022 เขาขึ้นกล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับประเด็นนี้บอกว่าคำแนะนำที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์อย่าง “เดินตามความฝัน” คือคำแนะนำที่แย่มากเลยทีเดียว
“คำแนะนำดังกล่าวด้วยตัวมันเองไม่ได้แย่ มันมาแย่ก็เพราะว่าคนที่หวังดีทั้งหลายที่บอกให้คุณเดินตามความฝันแต่ไม่ได้บอกส่วนที่สำคัญที่สุดด้วย พวกเขาไม่เคยบอกคุณเลยว่าต้องทำยังไง”
แรนโดล์ฟบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดที่จะเดินตามความฝันหรือความสนใจส่วนตัว แต่มันยากมากเลยที่จะสร้างรายได้จากความฝันเหล่านั้นโดยไม่รู้เลยว่าจะต้องทำยังไงถึงจะไปยังเป้าหมายนั้นได้ เขาเลยให้คำแนะนำกับบัณฑิตจบใหม่ว่า “ไอเดียที่ดีนั้นไม่มีอยู่จริง” แทนที่จะวิ่งตามความฝันหรือสิ่งที่ชื่นชอบเพียงอย่างเดียว ให้พวกเขาลงมือทำเพื่อทดลองดูว่าไอเดียเหล่านั้นดีจริงรึเปล่าด้วย
“หยุดคิด แล้วเริ่มลงมือทำได้แล้ว”
แรนโดล์ฟเล่าถึงที่มาของบทเรียนนี้จากประสบการณ์ที่เขาร่วมก่อตั้ง Netflix กับ รีด ฮาสติงส์ (Reed Hastings) ว่าก่อนที่จะกลายมาเป็นบริษัทที่ปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมบันเทิง พวกเขาเคยทำงานด้วยกันมาก่อนที่บริษัทผลิตซอฟต์แวร์ชื่อว่า Pure Atria ทุกวันระหว่างที่ขับรถมาทำงานด้วยกันแรนโดล์ฟจะเสนอไอเดียธุรกิจให้ฮาสติงส์ฟังเสมอ ไอเดียหลายสิบหลายร้อยอันถูกโยนทิ้งไปเพราะทั้งคู่เห็นตรงกันว่ายังไม่ดีพอ อย่างเช่น อาหารสุนัขที่มีสารอาหารเหมาะกับน้องหมาแต่ละตัว หรือแชมพูที่เหมาะกับเส้นผมของลูกค้าแต่ละคน
ไอเดียธุรกิจเช่าดีวีดี (DVD) เกิดขึ้นมาภายหลังในช่วงกลางยุค 90’s ในตอนนั้นถือเป็นไอเดียที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ ความเสี่ยงคือตลาดดีวีดียังถือว่าใหม่มาก เป็นการวางเดิมพันอย่างสูงด้วยว่าแผ่นดีวีดีจะกลายเป็นรูปแบบของสื่อในยุคต่อไป ตอนที่ก่อตั้งบริษัทยังไม่มีเครื่องเล่นดีวีดีขายในอเมริกาด้วยซ้ำ มีแผ่นแค่ไม่กี่สิบเรื่องเท่านั้น คาสเซ็ตต์เทปยังคงเป็นรูปแบบของสื่อที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด ร้านเช่าวิดีโอ Blockbuster ยังคงเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ ลูกค้ายังคงคุ้นเคยกับการขับรถไปเช่าวิดีโอที่ร้านอยู่ แรนโดล์ฟและฮาสติงส์แค่รู้สึกว่ามันเป็นไอเดียที่ ‘ไม่แย่มากเกินไป’ เท่านั้น
หลังจากก่อตั้งบริษัทในปี 1997 ซึ่งได้รับเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากฮาสติงส์ ส่วนแรนโดล์ฟรับหน้าที่เป็นซีอีโอคนแรกของบริษัท ธุรกิจร้านเช่าดีวีดีทางไปรษณีย์ของ Netflix ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จในทันที ต้องปรับแต่งซองใส่ DVD หลายสิบครั้งเพื่อให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด ต้องพยายามโน้มน้าวคนที่มีฝีมือหลายต่อหลายคนเพื่อมาร่วมสร้างความฝันนี้ด้วยกัน ผ่านการหลบหลีกและต่อสู้กับคู่แข่งยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Blockbuster แถมยังเจอวิกฤตดอตคอมที่ทำให้เงินทุนกลายเป็นสิ่งหายากและต้องปลดพนักงานออกจำนวนมากเพื่อให้บริษัทอยู่รอดด้วย
หลังจาก Netflix เข้าตลาดหุ้นและเชื่อว่างานของเขาที่ Netflix ได้สำเร็จแล้ว แรนโดล์ฟลาออกจาก Netflix ในปี 2003 ซึ่งในเวลานั้นบริษัทก็ถือว่ามีรากฐานของลูกค้าที่แข็งแกร่งแล้ว อีกไม่กี่ปีต่อจากนั้นก็เริ่มธุรกิจสตรีมมิงจนกลายเป็น Netflix อย่างที่เรารู้จักกันในตอนนี้
แม้ว่าช่วงหลังเราจะเห็นข่าวที่ Netflix ประสบปัญหาค่อนข้างเยอะ ราคาหุ้นที่ร่วงลง คู่แข่งที่เยอะขึ้นและจำนวนสมาชิกที่ดูแล้วใกล้ถึงจุดอิ่มตัวเต็มที จนทำให้จำนวนสมาชิกลดลงเป็นครั้งแรก พวกเขาก็ยังถือว่าเป็นบริษัทมีเดียสตรีมมิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ดี มีสมาชิกราว 222 ล้านคน ซึ่งมันจะมาถึงตรงนี้ไม่ได้เลยถ้าแรนโดล์ฟไม่ตัดสินใจลองทำไอเดียที่ ‘ไม่แย่นัก’ ในตอนนั้น
เขาพูดทิ้งท้ายกับนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาในวันนั้นว่า
“ไม่ว่าคุณจะอยากทำอะไรก็ตามคุณมีเวลามากพอ ไม่ต้องห่วงว่าเส้นทางอาชีพของคุณจะต้องเดินเป็นเส้นตรง ความไม่แน่นอนคือสิ่งที่น่าตื่นเต้น และผมก็รู้สึกอิจฉามากเพราะคุณมีทั้งโลกที่เปิดกว้างอยู่ข้างหน้าแล้ว”
บทเรียนของการทำ Netflix ของแรนโดล์ฟแสดงให้เห็นว่าการเดินตามความฝันไม่ใช่เรื่องแย่ แต่เราไม่มีทางรู้ว่ามันจะต้องทำยังไงถึงจะไปยังจุดนั้นได้นอกจากการลงมือทำ ลองผิดลองถูก ความสำเร็จไม่มีสูตรตายตัว เราเดินตามความฝันได้ แต่ต้องกล้าที่จะล้มไปด้วยระหว่างทาง
อ้างอิง: YouTube CNBC CNBC 2
CNBC 3 CNBC 4
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส