คุณเก่ง-สิทธิพงศ์ ศิริมาศเกษม เปิดเวทีแรกด้วยคลิปวิดีโอเปิดตัวของ AI จากบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ อาทิ OpenAI, Microsoft, Google โดยพวก GenAI เหล่านี้ สามารถสรรค์สร้างผลงานได้ทุกรูปแบบ ทำให้เกิดคำถามสำคัญต่อผู้คนในแวดวงการทำงานว่า ตอนนี้ความคิดสร้างสรรค์จะยังจำเป็นอยู่ไหม ?
ถึงตอนนี้ GenAI จะช่วยเราได้หลายสิ่งในการสร้างผลงานต่าง ๆ ทั้งบทความ รูป ไปจนถึงสไลด์นำเสนอ แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร เริ่มต้นจากคำสั่งแบบไหนดี ดังนั้นความคิดสร้างสรรค์เองจึงยังคงเป็นสิ่งสำคัญแน่นอน
“ความคิดสร้างสรรค์” หากใช้ร่วมกับการสังเกตและตั้งประเด็น และนำมาใส่ในการทำงาน ธุรกิจ หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตอย่างเหมาะสม จะทำให้เราสามารถทำงานได้ดีขึ้น
เราจะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร
3 เรื่องสำคัญที่เราต้องเรียนรู้ เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้เอง องค์กรต้องช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อการฝึกฝนด้วย
อย่างแรกต้องสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) กระตุ้นให้ทุกคนกล้าแสดงออก กล้าแสดงความเห็น ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยในองค์กรด้วยการสร้างพื้นที่ที่ไม่จำกัดความคิด พร้อมเปิดรับทุกความเห็นต่างตลอดเวลา
ต่อมาจึงเริ่มเข้าใจในความแตกต่างและความหลากหลาย (Diversity) ทั้งในด้านอายุ การศึกษา ประสบการณ์การทำงานที่ไม่เหมือนกันในองค์กร ซึ่งจะช่วยส่งเสริมทำให้เกิด Creativity
อย่างสุดท้าย คือให้พลังกับผู้คิดเป็นนักฝัน (Embracing the Dreamer) เพื่อสนับสนุนพวกเค้า ถ้าข้อมูลไม่ครบก็แนะนำให้ไปค้นคว้าเพิ่มเติม ลองปรับเปลี่ยนให้เนื้อหาดู คอยซัปพอร์ตแทนที่การตำหนิเพียงอย่างเดียว
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีกำกับไว้เสมอคือความรู้ (Knowledge) เนื่องจากความรู้จะให้ทิศทางที่ถูกต้องในการเริ่มต้น และสร้างโอกาสต่าง ๆ ต่อยอดให้เกิดทางเลือกที่ให้เราเลือกเดินได้มากขึ้น แต่หากเราทำไปโดยไม่มีความรู้ก็จะมุ่งไปสู่งานที่ไม่ชิ้นเป็นอัน รวมถึงไอเดียที่ออกมาก็ใช้ไม่ได้และช่างฝันเกินจริง
ในท้ายที่สุด เราหลายคนไม่มีใครเหมือนกัน มีจุดมุ่งหมายและความสุขต่างกัน แล้วก็ในทุก ๆ วันไม่ได้สวยงามแดดออกตลอด และ “มาตราวัดศักยภาพที่ดีที่สุดของมนุษย์นั้นไม่ใช่ส่วนที่ทำได้ แต่เป็นระยะที่ปีนขึ้นมาได้จากจุดเริ่มต้นต่างหาก” ประโยคนี้จะเป็นกำลังใจให้เราเข้าใจความเหนื่อยที่มีในชีวิตมากขึ้น