อย่างที่ทราบกันดีว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเมืองไทย ณ ปัจจุบันนี้มีการแพร่ระบาดระลอก 3 และอาจจะรุนแรงกว่าเดิมทั้งในรอบแรกและรอบสอง จึงเป็นเหตุให้หลายบริษัทจะต้องจัดเตรียม การทำงานที่บ้าน (Work from Home) อีกครั้ง เพื่อเป็นการลดและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
แต่เชื่อว่าก็ยังมีบริษัทชั้นนำอีกหลายแห่ง ที่ยังไม่สามารถปรับรูปแบบการทำงานที่บ้านได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะเหตุผลบางประการ จึงทำให้ต้องชะลอการตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของบริษัทไปก่อน ดังนั้นวันนี้ทีมงานแบไต๋จึงรวบรวมข้อดีของการทำงานที่บ้านเพื่อช่วยเพิ่มการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงสำหรับประสิทธิภาพที่ดีกว่า กับ 4 เหตุผลว่าทำไมการทำงานที่บ้านถึงดีเยี่ยมขนาดนี้
1. คนมีความสามารถอยู่ที่ไหนก็ได้
ต้องยอมรับว่าบุคลากรที่มีความสามารถไม่ได้มีอยู่แค่ในตัวเมืองกรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียว แต่บุคลากรเหล่านี้ยังกระจายตัวไปอยู่ทุกจังหวัด และไม่พร้อมที่จะเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ทำให้บางครั้งบริษัทต้องพบกับข้อจำกัดในการจ้างงานต่าง ๆ
แต่ไม่ใช่สำหรับบางบริษัท ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ บริษัทโชว์ไร้ขีดจำกัด หรือแบไต๋ ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนโยบายการทำงานที่บ้านเนื่องจากการระบาดของโควิด ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นถือว่าประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทสูงขึ้นเท่าตัว
เพราะไม่เพียงจะสร้างความยืดหยุ่นให้กับบริษัทในด้านการเช่าสถานที่ต่าง ๆ แต่บริษัทยังสามารถจ้างพนักงานที่มีความสามารถสูงตามต่างจังหวัดได้อย่างง่ายดาย รวมไปถึงพนักงานเดิมก็ไม่จำเป็นต้องมีข้อจำกัดการทำงานอยู่ในพื้นที่ในเมือง ทำให้บริษัทแบไต๋ตอนนี้มีพนักงานที่มีความสามารถกระจายตัวไปอยู่เกือบทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่, นครราชสีมา, นครปฐม หรือแม้แต่สงขลา
2. เวลายืดหยุ่นมากขึ้น
จากผลสำรวจของ Harvard Business Review โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาเป็นเวลา 4 ปี พบว่า 88% ของพนักงานส่วนใหญ่รักความยืดหยุ่นเป็นชีวิตจิตใจ หรือกล่าวคือ การจัดการชีวิตและงานให้ออกมาสมดุล (Work-Life Balance) แล้วถ้าถามถึงความต้องการทำงานทางไกลพนักงานเหล่านี้แทบจะตอบเป็นเสียงเดียวว่า “พวกเขาสนใจอย่างยิ่ง”
นั่นจึงไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่า บริษัทที่มีการปรับรูปแบบมาเป็นการทำงานที่บ้าน ทำให้พนักงานของพวกเขามีความยืดหยุ่นทางด้านเวลามากขึ้น เพราะพวกเขาไม่จำเป็นที่ต้องฝ่าช่วงเวลารถติดในชั่วโมงเร่งรีบ พวกเขามีความยืดหยุ่นทางด้านเวลาเพื่อที่จะไปพบแพทย์ พวกเขามีเวลาให้กับที่บ้านและครอบครัวมากขึ้น
ด้วยเหตุเหล่านี้เองยิ่งพนักงานมีความยืดหยุ่นกับชั่วโมงการทำงานได้มากขึ้นเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการทำงานมากขึ้นเท่านั้น มันจึงเป็นอานิสงส์ที่ดีกับบริษัทด้วยเช่นกัน ดังนั้นความยืดหยุ่นของพนักงานจึงมีความหมายต่อผลผลิตบริษัทไม่น้อย
3. ลางานน้อยลง
เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุก ๆ ปี จะมีเหล่าไข้หวัดเล็กไข้หวัดน้อยเล็ดลอดเข้ามาในที่ทำงานไม่หยุดหย่อน ทั้งที่บางบริษัทพยายามที่จะดูแลสุขอนามัยของทั้งสำนักงานและพนักงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่พ้นกับการอาการป่วย จนทำให้พนักงานบางคนจำเป็นต้องลาหยุดเพื่อพักฟื้นร่างกาย แล้วไม่สามารถมาทำงานได้
แต่ไม่ใช่สำหรับปีนี้ เพราะสถานการณ์โควิดพนักงานจำเป็นต้องทำงานที่บ้าน เลยทำให้พนักงานต้องอยู่ห่างกันมากขึ้น ซึ่งก็ลดการแพร่กระจายของโรคที่ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม จึงเป็นเรื่องปกติที่การลางานก็น้อยลงตามลำดับ
4. รักษาพนักงานไม่ให้ลาออก
ข้อดีสำคัญอีกประการของการทำงานที่บ้านคือรักษาพนักงานไม่ให้ลาออก เนื่องด้วยในบางครั้งเหตุผลของพนักงานในการตัดสินใจลาออกจากงานอาจจะไม่ใช่ในเรื่องของตัวเงินเพียงอย่างเดียว และการเปลี่ยนระบบของธุรกิจเป็นรูปแบบการทำงานที่บ้านก็อาจไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดของพนักงาน แต่การใช้รูปแบบการทำงานที่บ้านสามารถช่วยแก้ปัญหาให้พนักงานที่ตัดสินใจย้ายเมืองไม่จำเป็นต้องลาออกได้
เพราะฉะนั้นด้วยปัจจัยเหล่านี้เองบริษัทที่สามารถสร้างความยืดหยุ่นของงาน ให้กับพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการทำงานระยะไกล จึงสามารถรักษาพนักงานไม่ให้ลาออก แล้วเพิ่มกำลังการผลิตของงานได้ทั่วประเทศ แถมยังสามารถรักษาคุณประโยชน์ของทีมงานได้อย่างดีเยี่ยม
เครดิต: Entrepreneur
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส