มูลค่าบ้านของ บิล เกตส์ (Bill Gates) อยู่ที่ราว 125 ล้านเหรียญ (4,000 ล้านบาท) ส่วน เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ก็มีการขายหุ้นแอมะซอน (Amazon) ของตัวเองมูลค่าราวๆ 1,000 ล้านเหรียญ (30,000 ล้านบาท) ทุก ๆ ปีเพื่อที่จะเอาไปสนับสนุนในโปรเจกต์ Blue Origin ที่เป็นความฝันของเขาตั้งแต่วัยเด็กในการไปท่องเที่ยวเดินทางในอวกาศ บอกได้คำเดียวว่าทั้งสองคนนั้นมีเงินชนิดที่เรียกว่าใช้ได้ไม่มีวันหมด ถือเป็นบุคคลที่ร่ำรวยระดับต้น ๆ ของโลกทั้งคู่ แต่ในการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Business Insider เมื่อไม่กี่ปีก่อน เบโซสพูดติดตลกว่า “ผมยังล้างจานเองทุกคืนอยู่ ค่อนข้างแน่ใจว่ามันเป็นสิ่งที่เซ็กซี่ที่สุดเลย” ส่วน บิล เกตส์ก็ไม่ต่างกัน มีคนถามเขาว่าสิ่งที่เขาชอบทำแต่คนอาจจะคาดไม่ถึงคืออะไรบนบอร์ด Reddit AMA เขาบอกว่า “ผมล้างจานเองทุกคืน คนอื่นก็อาสานะ แต่ผมชอบแบบที่ตัวเองทำมากกว่า”
ฟังดูแปลกดีที่ทั้งสองคนยังทำงานบ้านที่ดูน่าเบื่อเหล่านี้อยู่ เพราะแน่นอนว่าจะจ้างแม่บ้านให้มาดูแลก็คงไม่ได้ลำบากอะไร หรือมันเป็นกลยุทธ์การวางตัวให้ดูถ่อมตน ก็คงไม่ใช่ แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงยังคงล้างจานอยู่ทุกวี่วัน แต่มีหลักฐานเชิงบวกทางวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าไม่ว่าคุณจะยุ่ง (หรือรวย) แค่ไหนก็ควรที่จะทำงานบ้านที่ซ้ำซากแบบนี้อยู่ และทำไมคนที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ควรเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับมันใหม่
งานบ้านเป็นเหมือนการฝึกสมาธิ
มันอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อแต่จากงานวิจัยมีบอกไว้ว่างานบ้านอย่างการล้างจาน หรือเอาผ้าไปตากสามารถช่วยทำให้อารมณ์เราดีขึ้นได้ถ้าทำอย่างถูกวิธี งานศึกษาชิ้นหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ได้ทำการทดลองกับอาสาสมัครโดยการให้สอนเกี่ยวกับเรื่องการมีสติอยู่กับปัจจุบัน ให้โฟกัสไปยังฟองสบู่และน้ำที่ไหลผ่านมือไปเรื่อย ๆ ฯลฯ หลังจากประมาณ 6 นาทีหลังจากเริ่มล้างจาน กลุ่มคนที่กำลังล้างรายงานว่าพวกเขารู้สึกกังวลน้อยลงเกือบ 27% และมีกำลังใจเพิ่มขึ้นกว่า 25%
เอาล่ะมันอาจจะฟังดูประหลาดสักหน่อยเหมือนโดนสะกดจิต เพราะสำหรับคนที่ทำงานยุ่ง ๆ แล้วจะรู้สึกว่าอยากหลุดพ้นจากงานบ้านและถ้ามีใครมาช่วยก็คงจะดีมากเลย แต่การศึกษาชิ้นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ ที่จริงมีอาจารย์ที่สอนเกี่ยวกับเรื่องการทำสมาธิหลายท่านที่บอกว่าการโฟกัสกับงานซ้ำ ๆ ที่อยู่ตรงหน้านั้นสามารถทำให้จิตใจสงบลงได้จริง ๆ
สำหรับคนที่ยังไม่เชื่อ ขอยก อดัม แกรนต์ (Adam Grant) เจ้าของหนังสือขายดีระดับโลกอย่าง ‘Think Again’ กับ ‘Originals’ ก็บอกเช่นกันว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งสมาธิเพื่อทำสมาธิ แต่สิ่งที่เขาฝึกการทำสมาธิกับสิ่งที่เขาเจอในทุก ๆ วัน ในสิ่งที่ทำให้เราสามารถอยู่กับปัจจุบันได้
งานบ้านทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
ตลอดทั้งวัน (โดยเฉพาะตอนนี้) เราถูกห้อมล้อมไปด้วยความวุ่นวายที่ไม่ขาดสายตลอดตั้งแต่ลืมตาตื่นจนเข้านอน ต้องตัดสินใจทำนั้นทำนี่อยู่ตลอดเวลา สมองของเราไม่มีโอกาสได้พักเลยด้วยซ้ำ การล้างจานถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก โอกาสเหมาะสำหรับการได้พักสมอง แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานมาก แต่สมองก็จะได้อยู่กับปัจจุบันจริง ๆ เอาฟองน้ำมาขัดมาถู พักผ่อน คลายเครียด อาจจะเหม่อบ้าง ฝันกลางวันบ้าง ซึ่งช่วงเวลาเหล่านี้แหละที่จะทำให้ความคิดเจ๋ง ๆ มีโอกาสโผล่ขึ้นมาได้ เหมือนกับตอนที่เราอาบน้ำแล้วมักจะมีไอเดียแปลก ๆ ใหม่ ๆ เกิดขึ้นนั้นแหละ
สำหรับคนทั่วไปอย่างเรา ๆ การทำงานบ้าน ล้างจาน ตากผ้า เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก ๆ ถ้ามีคนมาทำแทนให้นี่แทบจะโผเข้าไปกอด แต่หลังจากที่อ่านสัมภาษณ์ของเกตส์และเบโซส์แล้วมันก็ทำให้กลับมาคิดอีกครั้งว่านี่เราควรมองงานเหล่านี้ในทางบวกมากขึ้น มันอาจจะเป็นโอกาสสำหรับการทำให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะและสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ ได้อย่างไม่รู้ตัว แน่นอนว่าพอมีบอกให้เราไปล้างจานครั้งหน้า เราก็อาจจะไม่ได้กระโดดโลดเต้นวิ่งไปที่อ่างล้างจานอย่างเต็มใจอะไร แต่อย่างน้อย ๆ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ทำให้มันมีประโยชน์มากกว่าแค่ทำให้เสร็จ ๆ ไปคงดีไม่น้อย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส