ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 50,000 ล้านเหรียญ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ถือว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกได้ไม่ยาก แถมน่าจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นสายมูลค่ามากที่สุดคนหนึ่งในโลกแห่งศตวรรรษที่ 20 เลยก็ว่าได้
เราเคยได้อ่านเรื่องของบัฟเฟตต์มาบ้างแล้วว่าเขายังตื่นมาทำงานอยู่ทุกวัน แม้อายุจะมากถึง 91 ปีแล้ว เขายังอ่านหนังสือพิมพ์วันละหลายฉบับ เพราะฉะนั้นน่าจะพอเห็นภาพว่าแต่ละวันเขาต้องใช้มันอย่างมีค่าขนาดไหนและต้องจัดสรรเวลาเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ไมค์ ฟลินต์ (Mike Flint) อดีตคนขับเครื่องบินส่วนตัวของบัฟเฟตต์กว่า 10 ปี (เคยเป็นคนขับเครื่องบินให้ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีก 4 คนด้วย) ได้เล่าถึงกลยุทธ์ 3 ขั้นตอนการทำงานให้มีประสิทธิภาพที่บัฟเฟตต์สอนเขา ซึ่งทำให้เขาสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นว่า สิ่งที่สำคัญคืออะไร และสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ควรเป็นอะไรก่อนอันดับแรก
- บัฟเฟตต์บอกให้ฟลินต์เขียนเป้าหมายในการทำงานออกมา 25 ข้อ ฟลินต์ก็หยิบกระดาษ ปากกามาเขียน (การไปปรับใช้อาจจะเป็น 25 อย่างที่อยากทำอาทิตย์นี้ หรือ 25 อย่างที่อยากทำเดือนนี้ ฯลฯ)
- หลังจากนั้นบัฟเฟตต์ก็บอกว่าให้ฟลินต์อ่านลิสต์นี้อีกครั้งแล้ววงกลม 5 ข้อที่เป็นสิ่งที่อยากได้จริง ๆ ออกมา (ตรงนี้ถ้ากำลังทำตามอยู่ก็ขอให้ใช้เวลากับมันหน่อยนึงครับ)
- ตอนนี้เราจะได้ลิสต์ทั้งหมด 2 อัน อันที่มี 5 ข้อ เรียกว่าลิสต์ A กับ อันที่มี 20 ข้อ เรียกว่าลิสต์ B
ฟลินต์คอนเฟิร์มตอนนี้ว่าเรามีเป้าหมาย 5 อย่างที่ต้องทำเลยทันที บัฟเฟตต์ก็ถามต่อเลยว่า “แล้วที่ไม่วงเอาไว้ล่ะ?”
ฟลินต์ตอบว่า “ก็ที่วงไว้ 5 อันคือโฟกัส แต่อีก 20 อันก็ใกล้เคียง มันก็ยังสำคัญอยู่ แต่เดี๋ยวจะกลับมาทำ ถ้าอันไหนทำได้ มันไม่ได้เร่งด่วนแต่ก็มีแผนว่าจะกลับมาทุ่มเทให้มันอยู่”
บัฟเฟตต์บอกว่า “ไม่ใช่เลยไมค์ คิดแบบนั้นผิดเลย จำเอาไว้ว่าทุกอย่างที่นายไม่ได้วงเอาไว้กลายเป็นลิสต์ที่ ‘อย่าเข้าไปใกล้อย่างเด็ดขาด’ ไม่ว่ายังไงก็ตาม ไม่ควรได้รับความสนใจจากนาย จนกว่านายจะทำทุกอย่างใน 5 ข้อแรกเสร็จแล้วเท่านั้น”
นี่คือพลังของการกำจัดทิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก มันทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น สร้างนิสัยที่ดีมากขึ้น และทำให้เรารู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่เรามีอยู่มากขึ้น แต่การที่เราทิ้งสิ่งที่เราไม่ได้สนใจหรือขยะเป็นเรื่องที่ไม่ลำบากมากนัก แต่ถ้าเป็นของที่เราแคร์ก็จะยากเลยทีเดียว มันยากที่จะหยุดไม่เข้าไปยุ่งหรือใช้เวลากับสิ่งดูมีเหตุผลหรือสิ่งที่เราแคร์ แต่กลับเป็นสิ่งที่ไม่ได้ส่งผลลัพธ์อะไรมากมายในตอนสุดท้าย เปรียบเสมือนงานจุกจิกที่เราอยากทำแต่ที่จริงแล้วให้คนอื่นทำก็ได้และเราก็เสียเวลาตรงนั้นไปโดยเปล่าประโยชน์ งานที่จะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเสียสมาธิมากที่สุดคืองานที่คุณแคร์แต่ไม่สำคัญจริง ๆ นั่นแหละครับ
ทุกการกระทำมีค่าใช้จ่าย ทั้งเวลา พลังงาน และพื้นที่สมองที่ควรถูกนำไปใช้ในสิ่งที่สำคัญมากกว่า เรามักทำตัวยุ่ง ๆ อยู่กับสิ่งที่ไม่สำคัญ แทนที่จะโฟกัสไปกับสิ่งที่จำเป็น กลยุทธ์ของบัฟเฟตต์ทำให้ลิสต์สองอันชัดเจนมากขึ้นว่าเราควรโฟกัสไปที่ A อย่างเดียว ส่วน B นั้นคือสิ่งที่เราแคร์และควรหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุดเพื่อไม่ให้ไปใช้เวลากับมัน เพราะจะกลายเป็นว่าเราจะไปวุ่นกับงานที่เสร็จครึ่ง ๆ กลาง ๆ 20 อัน แทนที่จะเป็นงานที่สำคัญเสร็จไป 5 งาน
การตัดออกแบบชัดเจนแบบนี้ช่วยทำให้เราโฟกัสง่ายขึ้น เริ่มงานได้ไวและทำให้เสร็จได้เลยทันที สิ่งที่ทำให้เราหลุดโฟกัสและรบกวนสมาธิมากที่สุดคือสิ่งที่เราแคร์ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับเราเลยนั่นแหละ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส