วันที่ 7 เมษายน 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศเตือนสิ้นสุดเวลาตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ SCB โดยผู้ถือหุ้นของ SCB ที่ตอบรับคำเสนอซื้อจะได้รับชำระเป็นหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX) อัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) โดยวันที่ 11 เมษายน 2565 เป็นวันสุดท้าย ที่จะซื้อหุ้นสามัญ หรือหุ้นบุริมสิทธิของ SCB ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และสามารถนำมาเสนอขายให้แก่ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ได้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศวันที่รับหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในวันเดียวกันกับวันที่ประกาศเพิกถอนหลักทรัพย์ของ SCB
ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ SCB ต้องทำอย่างไร?
ในวันเดียวกันนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า SCBX ได้กำหนดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2565 จนถึงวันที่ 18 เมษายน 2565 ระหว่างเวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. ของทุกวันทำการ รวมทั้งสิ้น 30 วันทำการ โดยเป็นระยะเวลารับซื้อสุดท้าย
ซึ่ง SCBX ได้ดำเนินการทำคำเสนอซื้อหุ้นของธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม 2565 จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2565 รวมเป็นระยะเวลา 25 วันทำการแล้ว ดังนั้น ธนาคารฯ ขอแจ้งเตือนผู้ถือหุ้นและผู้ที่ประสงค์จะซื้อหุ้นของธนาคารเพื่อแลกหุ้นในขั้นตอนการตอบรับคำเสนอซื้อ ดังนี้
- วันสุดท้ายของการยื่นแบบตอบรับการทำคำเสนอซื้อพร้อมเอกสารประกอบให้กับตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ คือ วันจันทร์ที่ 18 เมษายน 2565 ก่อนเวลา 16.00 น. โดยตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด
- เนื่องจากการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีขั้นตอนการชำระราคาและส่งมอบหุ้นในวันทำการที่ 2 ถัดจากวันซื้อขาย หรือ T+2 ดังนั้น วันทำการสุดท้ายที่นักลงทุนสามารถซื้อหุ้นของธนาคาร เพื่อนำมาตอบรับคำเสนอซื้อได้ คือ วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565
โดยภายหลังวันที่ 11 เมษายน 2565 นักลงทุนสามารถเข้าซื้อหลักทรัพย์ของธนาคารฯ ได้ตามปกติ แต่จะไม่สามารถนำหลักทรัพย์นั้นมาตอบรับคำเสนอซื้อได้ ซึ่งภายหลังจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของธนาคารฯ แล้วเสร็จ และเมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาตให้หุ้นสามัญของ SCBX เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน หุ้นของ SCBX จะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกับวันที่หุ้นของธนาคารจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
SCB เตือนผู้ถือหุ้นอาจเจอผลกระทบ 5 ด้าน หากไม่ตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นภายในกำหนด
ดังนั้น ผู้ถือหุ้นของธนาคารที่ไม่ตอบรับคำเสนอซื้อจะได้รับผลกระทบ ดังนี้
- หุ้นของธนาคารขาดสภาพคล่อง
- หุ้นของธนาคารจะพ้นสภาพการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน และจะไม่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือตลาดรองอื่น ๆ
- ขาดโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX และธุรกิจใหม่ในอนาคต
- ผู้ถือหุ้นที่ไม่ตอบรับคำเสนอซื้อ จะไม่มีโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการดำเนินงานของธุรกิจที่โอนย้ายไปยัง SCBX และธุรกิจใหม่ที่ SCBX จะมีการลงทุน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงและมีศักยภาพที่จะสามารถจดทะเบียนและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคตได้
- ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี
- หลังจากหุ้นของธนาคารพ้นสภาพการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับกำไรจากการซื้อขายหุ้น (Capital Gain Tax) นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นของธนาคาร ทั้งที่เป็นบุคคลธรมดาและนิติบุคคลจะต้องเสียอากรแสตมป์ในการโอนหุ้นสามัญของธนาคาร ในกรณีที่ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์
- นโยบายการจ่ายเงินปันผลอาจเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต
- นโยบายการจ่ายเงินปันผลของธนาคารภายหลังการปรับโครงสร้างการถือหุ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากธนาคารจะอยู่ภายใต้ SCBX ดังนั้น นโยบายการจ่ายเงินปันผลของธนาคาร จะต้องขึ้นอยู่กับแผนธุรกิจในอนาคตและความเหมาะสมโดยรวมเพื่อพิจารณาฐานะทางการเงินของ SCBX
- ได้รับข้อมูลข่าวสารของธนาคารน้อยลง
- เนื่องจากหุ้นของธนาคารจะถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ถือหุ้นของธนาคารจะมีข้อจำกัดในการได้รับข่าวสารจากธนาคาร
กรณีของผู้ถือหุ้น ซึ่งถือหุ้นของธนาคารในรูปแบบใบหุ้น (Scrip) ผู้ถือหุ้นสามารถส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ทุกราย ยกเว้นบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (สำหรับผู้แสดงเจตนาทั้งประเภทบุคคลและนิติบุคคล) และที่สาขาของธนาคารไทยพาณิซย์ทั่วประเทศ (เฉพาะผู้แสดงเจตนาประเภทบุคคล)
กรณีของผู้ถือหุ้น ซึ่งถือหุ้นของธนาคารในรูปแบบไร้ใบหุ้น (Scripless) ผู้ถือหุ้นสามารถส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อพร้อมเอกสารประกอบได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ผู้ถือหุ้นมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ โดยบริษัทหลักทรัพย์นั้นจะเป็นผู้ให้บริการรวบรวมและนำส่งแบบตอบรับคำเสนอซื้อดังกล่าวให้แก่ตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์ต่อไป
ที่มา : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย , ธนาคารไทยพาณิชย์