ไบแนนซ์ (Binance) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการอนุมัติ ‘ตามหลักการ’ จากอาบูดาบี โกลบอล มาร์เก็ต (Abu Dhabi Global Market) ให้ทำธุรกิจโบรกเกอร์และดีลเลอร์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)
รายงานจากไบแนนซ์ระบุว่า การอนุมัติตามหลักการในครั้งนี้เป็นก้าวแรกสู่การเป็น “ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้กำกับดูแล” ของเมืองอาบูดาบี ซึ่งถือว่าเป็นการรุกตลาดตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่องของไบแนนซ์ หลังจากที่เดือนที่แล้ว (มีนาคม 2565) ไบแนนซ์ก็ได้รับการอนุมัติเช่นเดียวกันจากเมืองดูไบ รวมถึงธนาคารกลางของประเทศบาห์เรน
การขยายตลาดในตะวันออกของไบแนนซ์นั้นดูไปได้สวยกว่าฝั่งยุโรปและเอเชีย เนื่องจากการเปิดรับของรัฐบาลและผู้บริหารของเมืองต่าง ๆ ในขณะที่สหราชอาณาจักรออกประกาศห้ามมิให้ประชาชนทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทที่อยู่นอกการกำกับดูแล ส่วนธนาคารกลางของสิงคโปร์ชี้ให้เห็นว่าสินทรัพย์ดิจิทัลจอาจขัดกับกฎหมายการชำระเงินของประเทศ
ชางเผิง เจา (Changpeng Zhao) ซีอีโอของไบแนนซ์ กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า “ยังมีอีกมากที่จะตามมา” โดยถ้อยคำดังกล่าวแสดงถึงแนวโน้มในการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องของไบแนนซ์ไปสู่ประเทศที่ “ไม่รังเกียจและกีดกันสินทรัพย์ดิจิทัล”
ไบแนนซ์ขึ้นชื่อว่าผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีที่อิสระ จึงไม่มีการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ขึ้นในเมืองหรือประเทศไหน ๆ แต่ขณะนี้ประเด็นดังกล่าวถูกพูดถึงมากขึ้น เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลของประเทศต่าง ๆ
ต้องการความมั่นคงและน่าเชื่อถือ การจัดตั้งสำนักงานใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ซีอีโอของไบแนนซ์คงต้องเก็บเอาไปคิด หากอยากขยายตลาดในประเทศที่ “ไม่รังเกียจและกีดกันสินทรัพย์ดิจิทัล”
ไม่เพียงแต่ไบแนนซ์เท่านั้นที่สนใจสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และภูมิภาคตะวันออกกลาง ผู้ประกอบรายอื่น ๆ เช่น Crypto.com และ FTX ต่างก็หมายปองพื้นที่แห่งนี้ โดยมีแรงจูงใจสำคัญคือการกำกับดูแล “แบบหลวม ๆ” แต่จุดนี้เองก็ใช่ว่าจะเป็นข้อดี โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถูกจัดให้อยู่ใน “รายการสีเทา” (Gray List) ของ FATF ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังการฟอกเงินระดับโลก
ที่มา : CNBC
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส