ข้อมูลจาก CoinGecko ในวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พบว่า Tether (USDT) เหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีอุปทานหมุนเวียนลดลงมาที่ประมาณ 73,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.50 ล้านล้านบาท) จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 84,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (2.88 ล้านล้านบาท) ในวันที่ 11 พฤษภาคม และเมื่อเย็นวันศุกร์พบว่าถูกถอนออกไปถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (34,196 ล้านบาท)
การหลุดตรึงมูลค่าจากดอลลาร์ของ TerraUSD (UST) ที่เป็น Stablecoin ได้ลดลงมาต่ำสุดที่ 0.26 เหรียญสหรัฐฯ เมื่อ 11 พฤษภาคม ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นใน Stablecoin เลยลุกลามแห่ไปถอนเงินออกจาก Tether (USDT) จนหลุดการตรึงมูลค่า 1 เหรียญสหรัฐฯ ลดลงต่ำสุดเมื่อ 12 พฤษภาคมที่ 0.95 เหรียญสหรัฐฯ และเกิดระลอกคลื่นเข้าโถมซัดกระหน่ำต่อไปยังบิตคอยน์และคริปโทสกุลอื่น ๆ ร่วงลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้หน่วยงานกำกับดูแลได้ออกมาแสดงความกังวล
ก่อนหน้านี้ Tether เผยว่ามีการตรึงมูลค่า 1 : 1 เป็นเงินดอลลาร์อยู่ในบัญชีธนาคาร แต่ต่อมาก็เปิดเผยว่ามีหลักประกันด้วยสินทรัพย์อื่น ๆ ได้แก่ ตราสารพาณิชย์ (Commercial paper เป็นตราสารหนี้ระยะสั้นที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันออกโดยบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง) และหนี้ภาคเอกชน (Corporate debt) ในระยะสั้น รวมทั้งโทเค็นดิจิทัล
สัปดาห์ที่ผ่านมา Tether เผยว่าได้ลดการถือครองตราสารพาณิชย์โดยมาเพิ่มเป็นการถือครองตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ (พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น) ที่มีความปลอดภัยมากขึ้นและยังถือครองพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศจำนวนหนึ่ง
ที่มา : cnbc
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส