ผู้ถือหุ้นทวิตเตอร์เตรียมฟ้อง อีลอน มัสก์ (Elon Musk) และบริษัททวิตเตอร์ (Twitter) เนื่องจากข้อเสนอซื้อขายกิจการเป็นไปอย่างล่าช้าและส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทผันผวนอย่างมาก
ตั้งแต่การยื่นข้อเสนอซื้อกิจการทวิตเตอร์ของมัสก์ ราคาหุ้นของทวิตเตอร์ได้ร่วงลงมากว่า 12% และราคาหุ้นของเทสลา (Tesla) ก็ได้ร่วงลงมาถึง 28% โดยมีส่วนมาจากการขายหุ้นเทสลาของมัสก์เพื่อใช้เป็นทุนในการเข้าซื้อทวิตเตอร์
โดยผู้ถือหุ้นของทวิตเตอร์กล่าวว่า มัสก์ละเมิดกฎหมายองค์กรของเคลิฟอร์เนียในหลายด้าน และเป็นการกระทำที่เข้าข่ายปั่นราคาตลาด
ซึ่งหนึ่งในข้อละเมิดนั้นคือการที่มัสก์ไม่เปิดเผยการซื้อหุ้นทวิตเตอร์มากกว่า 5% ในช่วงเดือนมีนาคม 2022 ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ บังคับไว้ และยังซื้อต่อเรื่อย ๆ โดยมีข้อมูลวงในเกี่ยวกับบริษัทจากเพื่อนสนิทอย่าง แจ็ก ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) และ เอกอน เดอร์บัน (Egon Durban) อดีตซีอีโอและหนึ่งในคณะบริหารของทวิตเตอร์ตามลำดับ โดยมัสก์มาเปิดเผยสถานะการถือหุ้นในตอนที่มีหุ้นในครอบครองแล้ว 9.2%
“การไม่เปิดเผยสถานะการถือหุ้น ทำให้มัสก์เกี่ยวข้องกับการบิดเบือนราคาตลาด และได้ซื้อหุ้นทั้งหมดในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง” หนึ่งในผู้ถือหุ้นทวิตเตอร์กล่าว
ทั้งนี้ กฎหมายอีกข้อที่มัสก์ละเมิดคือการสร้างความไม่มั่นใจว่าข้อเสนอการซื้อกิจการจะสำเร็จหรือไม่ ถึงแม้ว่าจะเซ็นสัญญาซื้อไปแล้ว อ้างอิงจากการที่มัสก์ประกาศพักดีลการซื้อทวิตเตอร์เมื่อช่วงต้นพฤษภาคม 2022 เพื่อรอดูข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสงสัยและการตรวจสอบบัญชีสแปมของทวิตเตอร์
ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้ถือหุ้นของทวิตเตอร์กล่าวว่า มัสก์กำลังจะใช้มันเป็นข้อต่อรองในการลดราคา หรือเป็นข้ออ้างในการยกเลิกดีลดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้ราคาที่เขาซื้อทวิตเตอร์ถูกลงถึง 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (375,468 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่ามัสก์และทวิตเตอร์แสดงความคิดเห็นต่อกรณีฟ้องร้องดังกล่าว
ที่มา : CNBC
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส