วันที่ 15 มิถุนายน 2022 ทรานส์ลูเซีย (Translucia) ในเครือ บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับ ทูบูลส์ (Two Bulls) บริษัทด้านพัฒนาเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์จากประเทศออสเตรเลีย สร้างศูนย์วิจัย Metaverse R&D Center ด้วยเงินทุน 100 ล้านเหรียญ (ราว 3,500 ล้านบาท) เพื่อวิจัยด้านการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้และพัฒนาการเชื่อมโยงระหว่าง ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ (Translucia Metaverse) และโลกแห่งความเป็นจริง
ศูนย์วิจัย Metaverse R&D Center แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยตั้งเป้าศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ของผู้เข้าใช้บริการใน ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ ภายใต้หลักการแห่งความสุขด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมและตอบโจทย์ เช่น การศึกษาเรื่องการสื่อสารแบบไร้กำแพงภาษา ที่ผู้เข้าใช้บริการสามารถสื่อสารกันได้อย่างเข้าใจด้วยการ Auto Translate, การใช้เทคโนโลยี Deep Learning และ Deep Fake เพื่อสร้างสรรค์ NPC ผู้ให้ข้อมูลให้ดูมีชีวิตชีวา เป็นต้น
ทีมพัฒนา ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ ระบุว่าการใช้หลักการแห่งความสุขเป็นตัวตั้งจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ของผู้เข้าใช้บริการในเมตาเวิร์ส ก่อให้เกิดชุมชนที่แข็งแรง (Community) ช่วยเติมเต็มระบบนิเวศให้สมบูรณ์ และมีศักยภาพมากพอในการต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ต่อไป
ทั้งนี้ ทีมพัฒนา ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ ยังระบุอีกว่า ภายในปลายปี 2022 นี้ ทรานส์ลูเซียมีแผนจะจัดงาน Virtual Experience เพื่อให้บุคคลทั่วไปมีโอกาสได้สัมผัสกับเมตาเวิร์สอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
ทางด้าน ดร. ชวัลวัฒน์ อริยวรารมย์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล และประธานกรรมการบริหารผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัททรานลูเซีย (Translucia) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัย Metaverse R&D Center แห่งนี้ เป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยเฉพาะด้านเมตาเวิร์ส ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในโลก และยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลียผ่าน ทูบูลส์ (Two Bulls) ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์เพื่อการศึกษาและความบันเทิง ผู้อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยี AR/VR และงานแอนิเมชันของบริษัทระดับโลกอย่าง Qualcomm, Disney รวมไปถึงงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของ Apple เมื่อปี 2019 อีกด้วย
“ทรานส์ลูเซียรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยด้านเมตาเวิร์สขึ้นมาเพื่อพัฒนา ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าของโลกในสาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมตาเวิร์สจะได้มีเวทีมาร่วมกันทำงานในโครงการนี้ ทั้งนี้ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญขั้นสูงของเหล่าพันธมิตรนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะทำให้ความฝันและจินตนาการกลายเป็นจริงได้ โดยเราอยากให้ ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ แห่งนี้เป็นมากกว่าโลกเสมือนที่ทุก ๆ คนรู้จัก โดยจะเป็นโลกแห่งความสุขและรอยยิ้มที่ทุกผู้คนสามารถใช้ชีวิต มีสังคมชุมชน ทำงาน ดำเนินกิจกรรมทั้งทางเศรษฐกิจสังคม และความบันเทิงต่าง ๆ ในรูปแบบใหม่ และสามารถเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกเสมือนได้อย่างไร้ขอบเขต”
ทางด้านนายเจมส์ เคน (James Kane) ซีอีโอของทูบูลส์ เปิดเผยว่า การก่อตั้งศูนย์วิจัยด้านเมตาเวิร์สครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย เป็นปรากฎการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บุกเบิกเมตาเวิร์สรูปแบบใหม่ โดยทูบูลส์จะมีบทบาทหลักในการร่วมพัฒนาและบริหารศูนย์วิจัยด้านเมตาเวิร์ส รวบรวมข้อมูล และสร้างสรรค์พฤติกรรมของผู้เข้าใช้บริการในโลกเมตาเวิร์ส โดยเฉพาะการสร้างองค์ประกอบแห่งความสนุกสนาน (Gamification) ให้แก่ผู้เข้ามาใช้งานภายใน ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’
“การได้ทำงานร่วมกับทรานส์ลูเซียได้สร้างโอกาสและความเป็นไปได้มากมาย ผมคิดว่าศูนย์วิจัยด้านเมตาเวิร์สจะสร้างโอกาสที่ดีในการดึงดูดกลุ่มคนที่มีวิสัยทัศน์ด้านเมตาเวิร์ส ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมาก ทั้งต่อทีมทรานส์ลูเซียในการเติมเต็มวิสัยทัศน์ที่น่าทึ่งให้เป็นจริงได้ และส่งผลให้ผู้คนที่สนใจได้รับรู้ไอเดียของ ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ ในมุมมองใหม่ที่สามารถสร้างความแตกต่างจากเมตาเวิร์สรายอื่น ๆ ในโลกที่เราเคยเห็นกัน”
นอกจากนี้ ทรานส์ลูเซียยังมีพันธมิตรอีกรายที่สำคัญ คือ เพลลาร์ เทคโนโลยี (Pellar Technology) ซึ่งรับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบบล็อกเชนเทคโนโลยีเพื่อมารองรับกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นใน ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้จะได้รับการพัฒนาขึ้นมาใช้ในโลกเสมือนและเชื่อมโยงให้สามารถนำมาใช้ในโลกแห่งความจริงด้วย
สำหรับ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) พันธมิตรรายแรกของทรานส์ลูเซีย และเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จะมีการทำงานร่วมกันในการพัฒนาเมตาเวิร์สของ MQDC ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลทรานส์ลูเซีย โดยเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ประกาศความร่วมมือกับ บริษัท เอคเซนเชอร์ (Accenture) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาธุรกิจและวางแผนกลยุทธ์เมตาเวิร์ส โดยทางเอคเซนเชอร์จะเข้ามาทำงานร่วมกันกับทีมพัฒนาเมตาเวิร์สของ MQDC อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนารูปแบบเมตาเวิร์สนี้ให้แตกต่างและเต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่อสังหาริมทรัพย์ในโลกเสมือนเท่านั้น
ภายในงานวันนี้ ยังมีองค์กรภาครัฐของทั้งสองประเทศเข้าร่วมแสดงความยินดีอีกด้วย โดย ดร. แอนเจลา แมคโดนัลด์ ว่าที่เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ตัวแทนของรัฐบาลออสเตรเลีย (Australian Government) ได้ให้ความเห็นต่อความร่วมมือในการพัฒนาและวิจัย ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ ว่าเป็นโอกาสที่ดีของการสานสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างสองประเทศออสเตรเลียและไทยให้เติบโตไปด้วยกัน โดยมีจุดประสงค์ที่จะร่วมพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย
สำหรับประเทศไทย ดร. ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี กลุ่มงานโครงการพิเศษและศูนย์พัฒนาดิจิทัลและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า (Depa) ได้ร่วมแสดงความยินดีในการจัดตั้งศูนย์วิจัยนี้ โดยดีป้าพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้ Startup, นักพัฒนา (Developer) รวมถึงผู้ประกอบการในไทยได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยพัฒนาแอปพลิเคชัน (Application) หรือบริการต่าง ๆ บน ‘ทรานส์ลูเซีย เมตาเวิร์ส’ ต่อไป