เทสลา (Tesla) ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งลงทุนในบิตคอยน์เป็นจำนวนมากและเคยรับชำระค่าสินค้าเป็นบิตคอยน์ กำลังประสบปัญหาการขาดทุนจากการลงทุนในบิตคอยน์ถึง 440 ล้านเหรียญ (15,000 ล้านบาท) หลังราคาบิตคอยน์ลดลงจากจุดสูงสุดกว่า 70% และยังคงลดลงอยู่เรื่อย ๆ
ในช่วงต้นปี 2021 เทสลาได้ซื้อบิตคอยน์เป็นมูลค่า 1,500 ล้านเหรียญ (50,000 ล้านบาท) ซึ่งทำให้เทสลากลายเป็นบริษัทที่ซื้อบิตคอยน์จำนวนมากที่สุดในคราวเดียว ณ ขณะนั้น แต่เนื่องจากราคาบิตคอยน์ที่ลดลงอย่างมาก ทำให้การลงทุนในบิตคอยน์ของเทสลาในตอนนี้เรียกได้ว่า “ขาดทุนอย่างหนัก”
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นวันสุดท้ายของการปิดงบไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 ราคาบิตคอยน์ซื้อขายอยู่ที่ราว 19,000 เหรียญ (670,000 บาท) ทำให้บิตคอยน์ที่เทสลาถืออยู่ มีมูลค่าราว 820 ล้านเหรียญ (30,000 ล้านบาท) เท่านั้น ในขณะที่รายงานในไตรมาสแรกนั้น มีมูลค่าราว 1,200 ล้านเหรียญ (42,000 ล้านบาท)
นอกจากเทสลาแล้ว มีบริษัทอีกไม่น้อยที่ลงทุนในบิตคอยน์ในช่วงปีที่ผ่านมา เช่น Block บริษัทของแจ็ก ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey), Coinbase และ MicroStrategy ที่มีบิตคอยน์จำนวนไม่น้อยในเงินสำรองบริษัท และขาดทุนอย่างหนักจากการลดลงของราคาบิตคอยน์ ซึ่งในปีนี้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ลดลงกว่า 1,300,000 ล้านเหรียญ (46,000 ล้านล้านบาท) ซึ่งนับเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่หายไปจากตลาดทุน
ทั้งนี้ มูลค่าโดยรวมของเทสลาได้ลดลงถึง 44% ในปีนี้ ท่ามกลางการเทขายอย่างรุนแรงของผู้ถือหุ้น เนื่องจากบริษัทไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ในเซี่ยงไฮ้ ทำให้โรงงานผลิตของเทสลาต้องปิดตัวลงตามไปด้วย
ที่มา: Telegraph
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส