สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า Bank of America มีจำนวนผู้ใช้คริปโทในเดือนพฤษภาคมลดลงมาต่ำกว่า 500,000 คน จากที่เคยมากกว่า 1,000,000 คน ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ในช่วงที่ตลาดคริปโทอยู่จุดสูงสุดและบิตคอยน์อยู่ที่ 69,045 เหรียญสหรัฐฯ (2,481,891 บาท) และในช่วงที่ธนาคารทำการวิเคราะห์ข้อมูลได้ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 19,000 เหรียญสหรัฐฯ (683,126 บาท) ซึ่งให้ความเห็นว่าได้ลดลงมาอย่างรุนแรง

เจ้าหน้าที่ของธนาคารฯ วิเคราะห์ว่าตลาดคริปโทได้รับแรงสั่นสะเทือนจากราคาของคริปโทที่ลดลงอย่างรุนแรงและการล่มสลายของ Stablecoin บางสกุล (ซึ่งก็หมายถึง UST ของ Terra)

การวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้ธนาคารฯ ได้พิจารณาจากข้อมูลลูกค้าภายในที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งทำการลงทุนในคริปโทโดยการส่ง การชำระเงินไปหรือรับมาจากแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโท แม้ว่าข้อมูลไม่ได้แสดงถึงรายละเอียดของธุรกรรมมากนัก แต่ก็พอสะท้อนให้เห็นว่าตลาดคริปโทในภาพรวมเป็นอย่างไร

นอกจากนี้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอย่างอื่นก็ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางในท้องถิ่นต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อชะลอเงินเฟ้อ ส่วนตลาดคริปโทในช่วงนี้บอกได้เลยว่าตกต่ำมาก ดูจากตอนนี้มูลค่าตลาดลดลงไม่ถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (36 ล้านล้านบาท) จากจุดสูงในเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (108 ล้านล้านบาท)

การลดลงของตลาดคริปโทได้ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้คริปโทออกจากแผนการลงทุนเพิ่มขึ้น 30% จาก 21% ในระหว่างช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน แต่อย่างไรก็ตาม การตกต่ำของตลาดคริปโทไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในวงกว้าง เพราะสินทรัพย์คริปโทเทียบได้น้อยกว่า 1% ของสินทรัพย์ทางการเงินในครัวเรือนของสหรัฐฯ แต่ทั้งนี้ธนาคารฯ ได้ทิ้งท้ายว่ามีเพียงไม่กี่คนที่มองว่าสินทรัพย์คริปโทเป็นการลงทุนระยะยาวที่น่าเชื่อถือ

ที่มา : bloomberg และ cryptoglobe

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส