วันที่ 6 กรกฎาคม 2565 Core Scientific เหมืองขุดบิตคอยน์ขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ รายงานว่าพวกเขาได้ขายบิตคอยน์ไปกว่า 7,000 บิตคอยน์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท เพื่อใช้ชำระค่าใช้จ่ายของระบบเซิร์ฟเวอร์ เพิ่มความจุของการเก็บข้อมูล และชำระหนี้คงค้างของบริษัท
รายงานระบุว่าบริษัทได้ขายบิตคอยน์ไปจำนวน 7,202 บิตคอยน์ ที่มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท จากจำนวนที่เคยมีทั้งหมด 8,058 บิตคอยน์ ทำให้ตอนนี้เหลือบิตคอยน์ที่ยังถืออยู่เพียง 1,959 บิตคอยน์ และเหลือเงินสดอยู่ 132,000,000 เหรียญ (ราว 4,700 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการเทขายบิตคอยน์ในคลังกว่า 75% เลยทีเดียว
รายได้ที่ได้จากการขายครั้งนี้ถูกนำไปชำระค่าเซิร์ฟเวอร์ ASIC ที่ใช้ขุดบิตคอยน์, ชำระหนี้คงค้างต่าง ๆ, และลงทุนในการขยายความจุในการเก็บข้อมูลของบริษัทเพื่อให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ซึ่งทาง ไมค์ เลวิตต์ (Mike Lewitt) ประธานบริหารของบริษัทกล่าวว่า ตลาดคริปโทฯ ในขณะนี้กำลังอยู่ในภาวะตึงเครียด เนื่องจากเงินทุนจำนวนมากไหลออกไป แต่ทางบริษัทก็เคยได้ผ่านช่วงขาลงมาหลายครั้ง และมั่นใจว่าจะสามารถผ่านช่วงขาลงของตลาดคริปโทฯ ครั้งนี้ไปได้ด้วยเช่นกัน
ซึ่งนอกจาก Core Scientific แล้ว ในช่วงที่ผ่านมานี้ก็มีผู้ประกอบการธุรกิจคริปโทฯ หลายรายที่ต้องเทขายเหรียญที่ถือในคลังเพื่อรักษาสภาพคล่องเช่นเดียวกัน อย่างเช่น Bitfarms เหมืองขุดบิตคอยน์ในแคนาดาก็ได้ขายบิตคอยน์ไป 3,000 บิตคอยน์ เป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ในเดือนมิถุนายนเช่นเดียวกัน
ที่มา: CoinTelegraph
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส