คืนวานนี้ (27 กรกฎาคม 2565) เมตา (Meta) บริษัทแม่ของสื่อโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่างเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2565 มีกำไร 6,690 ล้านเหรียญ ขณะที่รายได้อยู่ที่ 28,820 ล้านเหรียญ ซึ่งลดลงจากระดับ 29,080 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ตัวเลขดังกล่าวเป็นผลสะท้อนจากยอดขายโฆษณาที่ลดลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังถดถอย รวมไปถึงประสิทธิภาพการโฆษณาบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเองที่ด้อยลง เนื่องจากกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวของบริษัทแอปเปิล (Apple) ที่ทำให้ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS ถูกโฆษณารบกวนน้อยลง
ขณะเดียวกัน เมตายังต้องรับมือกับ TikTok โซเชียลมีเดียที่มาเขย่าบัลลังก์ของเมตา จนทำให้ต้องเข็นฟีเจอร์ Reels ซึ่ง ‘คล้าย’ กับรูปแบบวิดีโอสั้นของ TikTok ออกมา เพื่อดึงผู้ใช้งานยังอยู่ในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมต่อไป
ทางด้าน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเมตา เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะมีผลกระทบในวงกว้างต่อธุรกิจโฆษณาดิจิทัล และเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าภาวะนี้จะรุนแรงหรือยาวนานแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ซักเคอร์เบิร์กยืนยันว่าสถานการณ์ในตอนนี้นั้นแย่ลงว่าไตรมาสที่แล้วแน่นอน
สำหรับรายได้ในไตรมาสที่ 3 ผู้บริหารส่วนใหญ่ของเมตามองว่าจะอยู่ที่ระดับ 26,000 – 28,500 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 30,360 ล้านเหรียญ หลังจากที่รายได้ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้วอยู่ที่ 29,010 ล้านเหรียญ
ที่มา : Bloomberg
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส