วันนี้ Apple ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 พบว่าบริษัททำลายสถิติรายได้ใหม่ตลอดกาลใหม่อีกครั้งแม้ว่าภาพรวมการขายฮาร์ดแวร์จะลดลงเนื่องจากปัญหาด้านซัปพลายเชน แต่ iPhone ยังคงมียอดขายที่สูงขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับไตรมาสนี้ Apple มีรายได้รวมทั้งหมด 83,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นกำไรทั้งหมด 19,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีรายได้รวมทั้งหมด 81,900 ล้านดอลลาร์ แต่กำไรลดลงจากปีที่แล้วมีกำไร 21,700 ล้านดอลลาร์
ภาพรวมผลิตภัณฑ์ของบริษัท iPhone และบริการต่าง ๆ สร้างยอดขายได้มากขึ้น ในขณะที่ iPad Mac และผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่น ๆ (wearable, Home และอุปกรณ์เสริม) สร้างยอดขายลดลง
- iPhone: 40,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ที่ 39,500 ล้านดอลลาร์
- iPad: 7,200 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีที่แล้ว ที่ 7,300 ล้านดอลลาร์
- Mac: 7,300 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีที่แล้ว ที่ 8,200 ล้านดอลลาร์
- Wearables, Home และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ: 8,000 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีที่แล้ว ที่ 8,700 ล้านดอลลาร์
- บริการต่าง ๆ: 19,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 17,400 ล้านดอลลาร์
ด้าน CEO ทิม คุก (Tim Cook) กล่าวว่า “ผลประกอบการประจำไตรมาสนี้ แสดงได้ถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของ Apple ในการคิดค้น พัฒนาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และยกระดับชีวิตลูกค้าของเรา แน่นอนว่าเหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา เรากำลังแสดงออกถึงค่านิยมของเราในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่คุณลักษณะใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ ไปจนถึงเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นอันยาวนานของเราในการสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน”
ก่อนหน้านี้ก็มีรายงานว่า Apple จำเป็นต้องลดการผลิตชิปสำหรับ iPad และ Mac เนื่องจากต้องรักษาสต็อกของ iPhone จึงไม่น่าแปลกใจที่ยอดขายของ iPad และ Mac จะลดลง กดสั่งซื้อทีรอนานมาก โดยเฉพาะยิ่งปรับสเปก รอกันทีเป็นเดือนครับ
ที่มา MacRumors
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส