จากรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่าบาเบล ไฟแนนซ์ (Babel Finance) แพลตฟอร์มให้บริการทางการเงินเกี่ยวกับคริปโทฯ ได้ประกาศปิดการถอนเงินเนื่องจากขาดสภาพคล่อง ล่าสุดจากรายงานข้อเสนอปรับโครงสร้างพบว่า ทางบริษัทขาดทุนกว่า 280,000,000 เหรียญ (ราว 10,000 ล้านบาท) จากการนำเงินทุนของลูกค้าไปเทรด
บาเบล ไฟแนนซ์ ล้มเหลวจากการเทรดคริปโทฯ ถูกบังคับขายสินทรัพย์จากการที่ตลาดตกต่ำอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา และไม่สามารถหาหลักประกันมาเพิ่มได้ ทำให้ต้องยอมขายบิตคอยน์และอีเธอเรียมขาดทุนทั้งสิ้นราว 8,000 BTC และ 56,000 ETH มูลค่ารวมกันกว่า 10,000 ล้านบาท
จากรายงานกล่าวว่าทั้งหมดนี้เกิดจากความล้มเหลวเพียงจุดเดียว นั่นก็คือทีมซื้อขายหลักทรัพย์ (เทรดเดอร์) ของบริษัทนั้นล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ จนทำให้บริษัทเกิดปัญหา เพราะนอกจากด้านนี้ ธุรกิจในด้านอื่นก็ดำเนินการอย่างราบรื่นมาตลอด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บาเบล ไฟแนนซ์ นำเงินลูกค้าไปใช้จนเกิดปัญหา เพราะช่วงเดือนตุลาคม 2021 มีรายงานว่าบาเบล ไฟแนนซ์ เคยนำเงินของลูกค้าไปค้ำประกันเพื่อกู้เงินแล้วเกือบจะไม่มีเงินคืนมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งในครั้งนั้นหนึ่งในเจ้าหนี้อย่าง Tether ได้เข้ามาช่วยไว้โดยขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไปหนึ่งเดือน
ในครั้งนี้ โฆษกของบาเล ไฟแนนซ์กล่าวว่า “ทางบริษัทกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า นักลงทุน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และที่ปรึกษา ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และเราเชื่อว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจะกลับมาฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์”
ที่มา: The Block
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส