ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีธนาคารพาณิชย์ปรับขั้นตอนการฝากเงินผ่านเครื่อง CDM ซึ่งต้องมีการยืนยันตัวตนผ่านบัตรเดบิต, บัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิตทุกครั้ง โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไปนั้น
ผู้ว่าฯ ธปท. ระบุว่า ขั้นตอนดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
ธปท. เข้าใจมาตรการในส่วนนี้ของ ปปง. ขณะเดียวกันหน้าที่ของ ธปท. คือการหารือกับหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแล เช่น สมาคมธนาคารไทย เพื่อหาข้อสรุปและวิธีการอื่น ๆ มารองรับ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และตอบโจทย์มาตรการของ ปปง. ในการป้องกันการฟอกเงิน
อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีผู้เสนอแนะให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนแทนบัตรเดบิต, บัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิต ในการยืนยันตัวตนนั้น ผู้ว่าฯ ธปท. ยอมรับว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้าง เช่น การทำบัตรสูญหาย รวมถึงการที่ธนาคารพาณิชย์ต้องปรับปรุงเครื่องฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) ให้รองรับบัตรประจำตัวประชาชนได้ และนั่นหมายถึงต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วอาจมีการผลักภาระดังกล่าวมายังประชาชนในท้ายที่สุด
ดร.เศรษฐพุฒิ ระบุว่า จากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น จะมีการเลื่อนการฝากเงินผ่านเครื่อง CDM ซึ่งต้องมีการยืนยันตัวตนผ่านบัตรต่าง ๆ ออกไปก่อน และ ธปท. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการหารือกันอีกครั้ง เพื่อค้นหาทางแก้ไข ซึ่งต้องตอบโจทย์ของ ปปง. ในด้านการป้องกันการฟอกเงิน และเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด