วันที่ 11 พฤศจิกายน บิตคอยน์ (Bitcoin) ได้เพิ่มขึ้นสู่ 18,169 เหรียญสหรัฐฯ (655,719 บาท จาก Binance) เพิ่มขึ้น 13% ในช่วง 24 ชั่วโมง หลังจากเมื่อวาน ช่วงเวลา 05.00 น. ได้ร่วงลงสู่ 15,555 เหรียญสหรัฐฯ (572,424 บาท) ซึ่งราคาใกล้เคียงกับ 2 ปีก่อน สาเหตุของการเพิ่มขึ้นเนื่องจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ (CPI) ตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อของเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเป็น 7.7% เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดไว้ที่ 7.9%
อัตราเงินเฟ้อเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับนโยบายทางการเงิน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเชื่อว่าจะช่วยผ่อนคลายความเข้มงวดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ทั้งนี้ได้ส่งผลให้หุ้นในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นและมีพลังบวกส่งผลให้คริปโทเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นสีเขียว แต่ล่าสุด 9.00 น. ราคาบิตคอยน์อยู่ที่ 17,200 เหรียญสหรัฐฯ (622,296 บาท) เพิ่มขึ้นกว่า 6% ในช่วง 24 ชั่วโมง ซึ่งราคามีความผันผวนยังไม่มีความแน่นอน
อีทีเรียม (Ethereum) สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับ 2 อยู่ที่ 1,261.03 เหรียญสหรัฐฯ (45,598 บาท) เพิ่มขึ้น 10.82% ส่วน BNB เพิ่มขึ้น 8.51% อยู่ที่ 295.96 เหรียญสหรัฐฯ (10,698 บาท), XRP เพิ่มขึ้น 13.05% อยู่ที่ 0.3863 เหรียญหรัฐฯ (13.96 บาท), ADA เพิ่มขึ้น 10.99% อยู่ที่ 0.3651 เหรียญสหรัฐฯ (13.20 บาท), DOGE เพิ่มขึ้น 16.35% อยู่ที่ 0.0876 เหรียญสหรัฐฯ (3.17 บาท) และ MATIC เพิ่มขึ้น 28.73% อยู่ที่ 1.0731 เหรียญสหรัฐฯ (38.79 บาท)
ส่วนเหรียญ Altcoin อื่น ๆ ก็เป็นสีเขียวเช่นกัน ได้แก่ DOT เพิ่มขึ้น 7.47%, SOL เพิ่มขึ้น 26.27%, SHIB เพิ่มขึ้น 9.49%, TRX เพิ่มขึ้น 6.66%, OKB เพิ่มขึ้น 11.07%, AVAX เพิ่มขึ้น 14.25% และ LTC เพิ่มขึ้น 17.66%
ก่อนหน้านี้ตลาดคริปโทร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากการขาดสภาพคล่องของแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโท FTX จนต้องประกาศระงับการถอนเงินและรับลูกค้าใหม่ ล่าสุดแผนกคุ้มครองทางการเงินและนวัตกรรมของแคลิฟอร์เนียได้ประกาศว่ากำลังเข้าตรวจสอบ FTX และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์บาฮามาสได้ระงับบัญชีสินทรัพย์ของ FTX ที่ตั้งอยู่ในบาฮามาสเป็นการชั่วคราวเพื่อกำลังเข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งยังไม่ชัดเจน FTX จะสามารถฟื้นขึ้นหรือจะล้มละลายแล้วส่งผลกระทบต่อความตกต่ำของตลาดคริปโทไปอีกนานแค่ไหน
ที่มา : binance และ quantifycrypto
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส