วันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 นายธีร์ สีอัมพรโรจน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน AIS เปิดเผยว่า ตามที่ AIS ได้ประกาศเดินหน้าดำเนินการเข้าซื้อหุ้นใน บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB และซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF นั้น

แม้ว่าเงื่อนไขบังคับก่อนหน้านี้ ระบุว่าต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ต่อกรณีการขอยกเลิกสัญญาประกันรายได้ (Rental Assurance Agreement) และการขอแก้ไขสัญญาเช่าหลัก (Main Lease Agreement) แต่ล่าสุด คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นว่าการเข้าทำธุรกรรมยังมีความเหมาะสมต่อบริษัทในระยะยาว จึงมีมติอนุมัติให้ AIS ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นใน 3BB และ JASIF ต่อไป

นายธีร์ ยืนยันว่า ดีลนี้จะสร้างประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมเน็ตบ้านในระยะยาว โดยช่วยทำให้คนไทยทุกพื้นที่ ทั้งในเมืองและนอกเมือง เข้าถึงบริการดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจากเทคโนโลยีไฟเบอร์ พร้อมนวัตกรรมล่าสุดจากขีดความสามารถของทีม AIS และ 3BB ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งลดปริมาณการลากสายไฟเบอร์ที่ทับซ้อนเกินความจำเป็น และเกิดการพัฒนาต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่ครอบคลุมการใช้งาน พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศในทุกรูปแบบธุรกิจอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

“AIS ยังคงมีความมุ่งมั่นพัฒนาโครงข่ายบรอดแบนด์ให้ครอบคลุมทั่วถึงคนไทย และตอบโจทย์การขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการประกาศยืนยันลงทุนขยายธุรกิจ AIS Fibre ในครั้งนี้ ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ แม้จะมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไข ตามมติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วย JASIF ที่ไม่อนุมัติการแก้ไขสัญญาเช่าตาม AIS เสนอไปก็ตาม แต่ทางคณะกรรมการบริษัทฯ ก็ยังเห็นโอกาสและมองว่ายังสามารถเดินหน้าดีลนี้ได้ต่อไป” นายธีร์กล่าว

ในส่วนของการลดค่าเช่าที่ไม่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นประเด็นสำคัญต่อการพิจารณา แต่ในท้ายที่สุด AIS มองเห็นถึงประโยชน์ในระยะยาว ที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจส่งเสริมด้วยการใช้ศักยภาพร่วมกัน ทั้งในฝั่งของ 3BB ที่มีความแข็งแกร่งในธุรกิจเน็ตบ้านมาอย่างยาวนาน และ AIS ที่เป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคม และบริการดิจิทัลที่ตอบโจทย์ รวมถึงการมีธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านอย่าง AIS Fibre การผนึกกำลังร่วมกันก็จะยิ่งสร้างความแข็งแกร่ง เสริมขีดความสามารถในการให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านสายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมลูกค้าที่กว้างขวางมากขึ้น

“สำหรับโอกาสในการต่อสัญญาเช่าโครงข่าย JASIF ภายหลังจากหมดอายุสัญญาในเดือนมกราคม 2575 หลังจากที่ผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ไม่ได้มีการอนุมัติในการปรับแก้ไขและต่ออายุสัญญาเช่าตามที่ AIS ได้เสนอ การต่อสัญญาเช่าจึงต้องมาพิจารณาความคุ้มค่าด้านต้นทุนที่เหมาะสม กับความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจของ AIS และ 3BB ซึ่งบริษัทจะพิจารณาร่วมกับทางเลือกอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสม เช่นการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ AIS เอง เพื่อรองรับการขยายตัวในระยะยาว” นายธีร์กล่าว

นอกเหนือจากความแข็งแกร่งและการเติบโตจากการขยายธุรกิจครั้งนี้แล้ว AIS ยังมองถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตบ้านที่ยังต้องอาศัยผู้เล่นที่มีความพร้อมในการพัฒนาโครงข่ายไฟเบอร์ในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการขยายการลงทุนไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ ให้คนไทยได้รับบริการอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดและพื้นที่ห่างไกล ซึ่งจะเป็นผลเพื่อผลักดันให้ตลาดเกิดการแข่งขัน สร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค รวมถึงช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมจากบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพดีที่สุด

ทั้งนี้ AIS จะดำเนินการขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ จากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ดกสทช.) ก่อนตามขั้นตอน จึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุน โดยคาดว่าธุรกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ของปี 2566