บิลลี่ มาร์คัส (Billy Markus) ผู้ร่วมสร้างเหรียญมีม Dogecoin ซึ่งมีฉายาว่า ชิเบโตชิ นากาโมโตะ (Shibetoshi Nakamoto) ได้ทวีตเมื่อไม่นานมานี้ว่าสำหรับใครที่กังวลว่า Binance และ/หรือ Tether ($USDT) จะล่มสลาย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นมันอาจรุนแรงถึงขั้นจบเกมสำหรับคริปโทเลยก็ว่าได้ และกล่าวว่าชุมชนเริ่มเห็นจุดอ่อนที่ใหญ่มากในตลาดซื้อขายคริปโทแบบรวมศูนย์ (ล่าสุดทวีตนี้ได้หายไปแล้ว)
นอกจากนี้ แจ็ก ดอร์ซีย์ (Jack Dorsey) อดีตซีอีโอของทวิตเตอร์หนึ่งในผู้สนับสนุนคริปโทที่ชุมชนต่างคุ้นเคยก็ได้ทวีตแสดงความเห็นด้วยประมาณว่าถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงก็มีโอกาสจบเกมของคริปโทอย่างแน่นอน ทั้งนี้มาร์คัสเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าคริปโทจะตาย แต่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดคริปโทพังทลายอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ในอดีตทุกครั้งที่เกิดเหตุวิกฤตเกี่ยวกับคริปโท รวมทั้งการล่มสลายของ Terra และ FTX ซึ่งส่งผลให้ตลาดคริปโทลดลงอย่างรุนแรงและชุมชนมีความตื่นตระหนก ทำให้มีเสียงออกมาวิจารณ์ว่าบิตคอยน์ตายแล้ว แต่สังเกตเห็นว่ายิ่งถูกกดให้ต่ำหรือถูกเหยียบย่ำยังงัย บิตคอยน์ก็ยังคงอยู่และขยายออกไปมากขึ้น จนกลายเป็นสกุลเงินที่ถูกกฎหมายแล้วในบางประเทศ เช่น เอลซัลวาดอร์และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง
การล่มสลายของ FTX ได้ส่งแรงสั่นสะเทือนไปยังอุตสาหกรรมคริปโทจนบางบริษัทเริ่มออกอาการเซ เช่น Genesis Global Trading ได้ระงับการไถ่ถอนชั่วคราวและให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกค้า, Gemini แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทประกาศว่ากำลังระงับการถอนเงินในผลิตภัณฑ์ Earn และมีข่าวลือว่า BlockFi ผู้ให้บริการกู้ยืมคริปโทกำลังเตรียมยื่นขอล้มละลาย
ส่วน Binance แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทที่ใหญ่ที่สุดได้ย้ำว่างบดุลมีความเสถียรและยังได้เพิ่มกองทุนประกันฉุกเฉิน SAFU เป็น 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (35,810 ล้านบาท) โดยเพิ่มโทเค็นต่าง ๆ มากกว่า 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (25,067 ล้านบาท) จากเดิมมีอยู่ 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (10,743 ล้านบาท) นอกจากนี้ Binance กำลังจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูอุตสาหกรรมคริปโทเพื่อช่วยเหลือโครงการที่เจอวิกฤตสภาพคล่องอีกด้วย
ที่มา : cryptopotato
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส