หลังการล้มละลายของ FTX ไปไม่นาน ก็มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นในโลกคริปโทฯ อีก เมื่อผู้ใช้งานแห่กันถอนเงินออกจากไบแนนซ์ (Binance) แพลตฟอร์มคริปโทฯ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนทำให้มีเงินไหลออกจากแพลตฟอร์มไปกว่า 1,900 ล้านเหรียญ (ราว 65,000 ล้านบาท) ภายใน 24 ชั่วโมง
เหตุการณ์นี้เป็นผลกระทบมาจากความไม่แน่นอนอย่างมากในโลกคริปโทฯ ในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนมีทั้งความเชื่อใจที่ต่ำและความอ่อนไหวสูงขึ้นมากเป็นพิเศษ เมื่อมีรายงานล่าสุดเผยว่าจำนวนการถือบิตคอยน์ของไบแนนซ์นั้นมีไม่เท่ากับจำนวนเงินฝากของลูกค้า ถึงแม้ว่าตัวเลขนั้นจะไม่สมดุลกันเพียงวันเดียวจากรายงานทั้งหมด แต่มันก็สร้างความแตกตื่นจนทำให้คนแห่กันถอนเงินออกมามากมาย
อย่างไรก็ตาม ทางไบแนนซ์เองก็ดูไม่ได้กังวลอะไรกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะทางแพลตฟอร์มนำเสนอด้านความโปร่งใสด้วยการใช้ระบบ Proof-of-reserve หรือเป็นการเก็บเงินของลูกค้าไว้ทั้งหมด 100% ซึ่งถ้าเป็นจริงตามที่กล่าว หมายความว่าถึงแม้ลูกค้าทั้งหมดของไบแนนซ์จะถอนเงินออกทั้งหมด ทางบริษัทก็มีเงินมากพอที่จะรองรับการแห่ถอนเหล่านั้นได้ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุหลักของการล่มสลายของแพลตฟอร์มคริปโทฯ ต่าง ๆ คือการไม่มีเงินคืนลูกค้าเมื่อลูกค้าแห่กันถอน เพราะนำเงินไปใช้ทำอย่างอื่นแล้วนั่นเอง
ในขณะเดียวกัน ชางเผิง เจา (Changpeng Zhao) ประธานกรรมการบริหารของไบแนนซ์ ได้ออกมาทวีตว่า “การแห่ถอนเมื่อวานไม่ใช่ครั้งใหญ่ที่สุดที่เราเคยเจอ ไม่ใช่ 1 ใน 5 ด้วยซ้ำ และทุกอย่างดูเหมือนจะสงบลงแล้ว”
ถ้าเกิดไบแนนซ์มีเงินให้ลูกค้าทั้งหมดจากการแห่ถอนครั้งนี้ ก็คงเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแพลตฟอร์มได้ไม่น้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น แต่ถ้าเกิดแพลตฟอร์มรับไม่ได้จนล้มละลายตามไปด้วย ก็คงส่งผลกระทบอย่างรุนแรงจนน่ากลัวกับวงการคริปโทฯ ทั้งโลกเลยเช่นกัน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส