16 กุมภาพันธ์ กลต. สหรัฐฯ (SEC) ได้ตั้งข้อหา โด ควอน (Do Kwon) และ Terraform ที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ว่าทำการฉ้อโกงสินทรัพย์คริปโทเกี่ยวกับ Stablecoin และสินทรัพย์คริปโทอื่น ๆ ในมูลค่าหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หลักหมื่นล้าน – แสนล้านบาท)
SEC ชี้ว่าควอนและ Terraform ได้เสนอและขายชุดคริปโทที่เชื่อมต่อโยงกันมากมายหลายธุรกรรมโดยไม่ได้จดทะเบียนโดยเริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2018 จนถึงการล่มสลายของ Terra ในเดือนพฤษภาคม 2022 และควอนยังบิดเบือนว่า Terra USD (UST) เป็น Stablecoin ที่รักษาการตรึงกับเงินดอลลาร์แบบ 1 ต่อ 1 ผ่านโทเค็น Luna อย่างมั่นคงปลอดภัย
นอกจากนี้ควอนและ Terraform ได้ทำการตลาดจูงใจนักลงทุนที่ต้องการผลกำไรว่าจะได้รับมูลค่าจากโทเค็นเพิ่มขึ้น เช่น จะจ่ายดอกเบี้ยให้แก่นักลงทุนที่ฝากโทเค็น UST ไว้ในแพลตฟอร์ม Anchor และยังหลอกลวงว่า Chai แอปชำระเงินบนมือถือของเกาหลีใต้ประมวลผลการชำระเงินด้วย Terra blockchain
SEC เผยว่าตอนที่ UST ได้หลุดจากการตรึงราคาต่ำกว่า 1 เหรียญสหรัฐฯ ครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 ควอนและ Terraform ก็ได้หารือกับบุคคลที่ 3 อย่างลับ ๆ ซึ่งอาจให้เข้ามาช่วยซื้อ UST จำนวนมากให้กลับมาตรึงราคาที่ 1 เหรียญสหรัฐฯ อีกครั้ง จากนั้นจึงได้เคลมว่าเป็นชัยชนะของการกระจายอำนาจและอัลกอริทึม UST/Luna มีความสามารถในรักษาการตรึงราคาได้เองอัตโนมัติ
การล่มสลายของ UST และ Luna ในปี 2022 ส่งผลให้มูลค่าของตลาดคริปโทลดลงอย่างน้อย 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1.3 ล้านล้านบาท) และสร้างแรงสั่นสะเทือนทำให้ธุรกิจคริปโททยอยล้มละลายตามกันมา ได้แก่ Three Arrows Capital, Voyager และ Celsius
สัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่าเมื่อต้นเดือนเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ได้นำทีมเจ้าหน้าที่เดินทางไปเยือนเซอร์เบียเพื่อประสานขอความช่วยเหลือในการควานหาตัว โด ควอน ที่มีหมายจับในข้อหาฉ้อโกงจากเหตุการล่มสลายของเหรียญ Luna และ UST
ที่มา : techcrunch และ sec.gov
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส