ซิลเวอร์เกต แคปิตอล (Silvergate Capital) ผู้ปล่อยสินเชื่อรายสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ประกาศยุติการให้บริการและเตรียมขายสินทรัพย์ของธนาคารซิลเวอร์เกต แบงก์ (Silvergate Bank) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหมีของคริปโทฯ และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะการล้มละลายของ FTX ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่
ตัวแทนของซิลเวอร์เกตระบุว่า การตัดสินใจยุติการให้บริการนั้นมีที่มาจากสถานการณ์ในอุตสาหกรรมคริปโทฯ และการกำกับดูแลกฎระเบียบในช่วงนี้ ซึ่งบริษัทฯ มองว่า การยุติการให้บริการและขายสินทรัพย์เพื่อชำระหนี้ถือเป็นหนทางที่ดีที่สุด โดยแผนเลิกกิจการธนาคารและการชำระหนี้ของ ซิลเวอร์เกต แบงก์ นั้น เงินฝากของลูกค้าจะถูกชำระคืนแบบเต็มจำนวน ซึ่งแตกต่างจากการล่มสลายของ FTX
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การยุติการให้บริการของ ซิลเวอร์เกต แบงก์ เป็นอีกหนึ่งความล้มเหลวล่าสุดของอุตสาหกรรมคริปโทฯ และยิ่งกระตุ้นให้มีการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น เพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรม
โดยหุ้นของซิลเวอร์เกตนั้นมีมูลค่าลดลงถึง 97% เมื่อเปรียบเทียบกับระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 สะท้อนถึงผลกระทบที่สำคัญจากราคาคริปโทเคอร์เรนซีที่ตกต่ำ เรื่องอื้อฉาวในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการล้มละลายของ FTX ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ของซิลเวอร์เกต ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้อุตสาหกรรมคริปโทฯ ประสบปัญหาด้านความเชื่อมั่นจนทำให้มูลค่าตลาดลดลงจาก 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เหลือเพียง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น
แม้ว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2022 จะมีลูกค้าจำนวน 2 ใน 3 ได้ถอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกไปแล้ว แต่ปัจจุบัน ซิลเวอร์เกต แบงก์ มีการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลไว้มากถึง 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งพวกเขายืนยันว่า ลูกค้าจะได้รับการชำระคืนแบบเต็มจำนวน
ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ของซิลเวอร์เกตนั้น ขาดทุนมากถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่มา : CNN, The Guardian
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส