วันพุธที่ 19 เมษายน เทสลา (Tesla) ได้รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2023 แก่นักลงทุน ซึ่งในตอนหนึ่งซีอีโอ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 เทสลาไม่ได้ซื้อเพิ่มเติมหรือขายบิตคอยน์ (Bitcoin) ออกไปแม้แต่ BTC เดียว โดยยังคงถือครองอยู่ 11,950 BTC มูลค่าประมาณ 345 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (11,836 บาท)
เทสลาไม่ได้ขายบิตคอยน์ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 จนถึงไตรมาสที่ 1 ปี 2023 นับเป็น 3 ไตรมาสติดต่อกัน หลังจากในไตรมาสที่ 2 ได้เทขายบิตคอยน์ออกไปประมาณ 75% จากที่ถือครองอยู่ในงบดุลของบริษัทแปลงเป็นเงินสดได้ 936 ล้านเหรียญ (34,412 ล้านบาท) เนื่องจากต้องการเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทเพราะไม่แน่ใจว่าจีนจะล็อกดาวน์โควิด – 19 นานแค่ไหน และย้ำว่าการขายในครั้งนั้นไม่ควรใช้เป็นคำตัดสินบางอย่างเกี่ยวกับบิตคอยน์
หลังจากการขายบิตคอยน์ของเทสลา มัสก์เผยว่าไม่ได้ขายคริปโทที่ถือครองเป็นการส่วนตัวทั้งบิตคอยน์ อีทีเรียม (Ethereum) และโดจคอยน์ (Dogecoin)
เทสลาเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์รายใหญ่ เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ประกาศว่าได้ซื้อบิตคอยน์มูลค่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (44,943 ล้านบาท) เพื่อเป็นสินทรัพย์สำรองเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งคาดว่าถือครองบิตคอยน์ไว้ประมาณ 43,200 BTC ส่งผลให้ราคาของบิตคอยน์พุ่งขึ้น 17% ทำสถิติสูงสูงสุดที่ราคา 46,582 เหรียญสหรัฐฯ (1,392,869 บาท) และต่อมาเดือนมีนาคม เทสลาประกาศว่าลูกค้าสามารถซื้อรถยนต์ไฟฟ้าด้วยบิตคอยน์ได้
เดือนเมษายน 2021 เทสลาได้ขายบิตคอยน์จากที่ซื้อไว้เมื่อเดือนมกราคม 10% ซึ่งได้ผลกำไรถึง 101 ล้านเหรียญ (3,166 ล้านบาท) อ้างต้องการทดสอบสภาพคล่องของตลาด ไม่ได้มีแผนจะขายเพิ่มเติม
เดือนพฤษภาคม 2021 มัสก์ได้ทวีตว่าจะไม่รับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาเนื่องจากการขุดและทำธุรกรรมของบิตคอยน์ส่งผลให้มีการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นและกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต่อมาเดือนมิถุนายน 2021 มัสก์เผยว่าเทสลาจะกลับมารับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อได้รับการพิสูจน์ว่านักขุดบิตคอยน์ใช้พลังงานสะอาดอย่างเหมาะสมประมาณ 50% ด้วยแนวโน้มที่ดีในอนาคต
ที่มา : cryptopotato.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส